เลือกเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลด้วยเหตุผลอะไรกัน ?

ผมมีโอกาสได้ศึกษาเกี่ยวกับเครื่องชงกาแฟประเภทแคปซูลมาได้สักพักหนึ่งแล้ว และอยากจะเอาเรื่องที่รู้มาเล่าให้ฟังเสียหน่อยเผื่อคนที่กำลังจะเลือกซื้อเครื่องชงกาแฟแบบใช้กับแคปซูลว่าจะเลือกยังไง มีแบบไหนบ้าง แล้วมันมีแคปซูลแบบไหน แบบไหนถึงจะคุ้มและเหมาะในแนวคิดของผมเองน่ะครับยังไงก็ลองอ่านให้ครบทุกประเด็นแล้วกันจะประหยัดเวลาให้กับคุณมากว่าจะเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลกันแบบไหน

ทำไมต้องเป็นกินกาแฟแคปซูลกันด้วยล่ะ ?

จริงๆแล้วเหตุผลหลักของการที่คุณมาไล่อ่านหาข้อมูลเรื่องกาแฟแบบอัดแคปซูลแบบนี้ก็จะมีเหตุผลหลักแต่เพียงอย่างเดียวก็คือ มันเหมือนเป็นการทำกาแฟสดที่คุณไม่ต้องใช้เวลามากในการชง โดยที่คุณจะไม่แคร์เรื่องต้นทุนต่อแก้วมากเท่าไหร่นัก เพราะ อย่างที่คุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่าการซื้อกาแฟแบบนี้มันจะแพงกว่าการใช้กาแฟเม็ดขั้วกับเครื่องทำกาแฟแบบอื่นๆ ทั้งนี้ เราจะไม่เทียบกับรสชาติกาแฟสำเร็จรูปใดๆในบทความนี้เพราะ คนที่จะกินกาแฟแคปซูลนั้นถือได้ว่ามีความต้องการละเมียดกับกาแฟไปอีกระดับหนึ่งแล้วที่เหนือไปกว่ากาแฟสำเร็จรูปนั่นเอง

โดยหลักแล้วการใช้กาแฟแคปซูลคุณจะได้กินกาแฟเกรดดีแบบกาแฟสดโดยที่คุณใช้เวลาในการเตรียมและทำการกลั่นกรองกาแฟน้อยระดับวินาทีกันเลยทีเดียว และ ทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นอัตโนมัติแทบไม่ต้องออกแรงหรือใช้สติในการทำงานใดๆ แต่คุณเอาแก้วกาแฟมาวาง เอาแคปซูลกระเปาะใส่เข้าไปที่ด้านหลังเครื่องหรือหัวเครื่อง แล้วก็ กดปุ่ม เพียงเท่านี้เครื่องทำกาแฟแบบนี้ก็จะทำหน้าที่ที่เหลือทั้งหมดด้วยตัวเอง

หลักการของการกินกาแฟแคปซูลนั้นก็คือ ระบบของเครื่องจะดันน้ำที่มีความร้อนที่กำหนดไว้ไม่ว่าจะเป็น 94’c หรือค่าอื่นๆแล้วแต่เครื่องได้รับการออกแบบเอาไว้ โดยน้ำเหล่านี้จะมีปริมาณที่กำหนดเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน แล้วแต่ขนาดของ Shot กาแฟที่คุณได้เลือกเอาไว้ แน่นอนว่าบางรุ่น(ส่วนใหญ่)ก็จะมีแค่สองระดับปริมาตรของน้ำที่จะไหลผ่านกาแฟบดเหล่านี้ แต่บางรุ่นโดยเฉพาะพวกเครื่องที่ออกแบบโดยแบรนด์จีนใดๆที่สร้างมาเพื่อแทรกตลาด ก็อาจจะมีระดับน้ำให้เลือกได้เยอะกว่าแค่สองระดับที่เป็น Shot Espresso กับ Lungo เท่านั้น

มันมีแคปซูลสองระบบ คือ Nespresso กับ Dolce Gusto แล้วมันต่างกันอย่างไร

ในโลกของกาแฟแคปซูลในโลกจริงๆมันจะมีหลายหลายดีไซน์เอามากๆ แต่เจ้าที่ครองตลาดไทย และตลาดโลกกันจริงๆจะมีสองแบรนด์หลักที่ฟาดฟันกันเพื่อที่่ครอบตลาดนี้ให้ได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วสองแบรนด์ใหญ่ที่มีแบ็คหนาสองรายนี้ก็ออกสินค้าและเครื่องออกมาอย่างต่อเนื่องเพื่อยึดหัวหาดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถ้าหากว่าคุณมองสินค้าประเภทกาแฟแคปซูลในตลาดจรืงๆคุณจะเห็นอยู่สองแบรนด์คือเนสเพรซโซ๋ Nesspresso และ เดาเซ่กัสโต้ Dolce Gusto ซึ่งคนที่ออกมาทำตลาดก่อนก็คือ Nespresso ซึ่งมันทำให้มีความแตกต่างกันในเรื่องของความดาษดื้นของอุปกรณ์ แน่นอนว่าสินค้าที่ออกมานานแล้ว ประเทศจีน และ นอกออกแบบทั่วโลกก็จะมีเครื่องไม้เครื่องมือมากมาย ที่ออกแบบมาบน Nespresso Design ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอัดแคปซูลเอง ที่เป็นทั้งซิลิโคน และที่เป็นอลูมีเนียมแบบหมุนฝาปิดได้ หรือ พวกเครื่อง Nespresso แบบ Third-Party ที่ไม่ได้เป็นการออกแบบของ Nespresso เองก็จะมีให้เลือกเยอะกว่ามาก นอกจากนี้ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ที่ว่า Nespresso มันออกมานานกว่า ก็จะมีกระเปาะแคปซูลที่ให้แบรนด์กาแฟอื่นๆ สามารถเลือกนำไปบรรจุกาแฟของแบรนด์ตัวเองได้อีกต่างหากเช่น Starbucks ก็เลือกที่จะใช้รูปแบบแคปซูลของเนสเพรสโซ่เพื่อบริการให้กับคนที่มีเครื่อง Nespresso แบบนี้แทนที่ตัวเองจะต้องมากินกาแฟแต่ของเนสกาแฟ ก็สามารถเลือกกาแฟของแบรนด์อื่นๆได้อีกต่างหาก ในทางกลับกันสำหรับเครื่องที่รองรับ Dolce Gusto จะไม่มีค่อยมีให้เลือกรุ่นมากเท่าใดนัก และ แน่นอนว่า แบรนด์อื่นๆ เขาก็ไม่ได้เลือกที่ออกแคปซูลสำหรับ Dolce Gusto ด้วยทำให้ตัวเลือกน้อยกว่ากันมากถ้าหากว่าคุณเทียบระหว่าง Nespresso และ Dolce Gusto

แย่ไปกว่ากันถ้าหากว่าคุณเลือกซื้อเครื่องอัดแรงดันกาแฟแคปซูลของแท้ Dolce Gusto มันดันมีระบบที่มีการตรวจสอบโค้ดที่มีความซับซ้อนมากกว่าเดิม คือ คนทำเครื่องเขาก็อยากจะขายกาแฟ ทำให้เหมือนกับว่าต้องมีการป้องกัน หรือหาทางป้องกันกาแฟจากคนอื่นๆที่จะไม่ให้สามารถใช้กับเครื่องของตัวเองได้ ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับเครื่องทำกาแฟ Nespresso นั้นโดยถูกเอาไปใช้กับกาแฟแบรนด์อื่นที่ไม่ได้เป็นแบรนด์ของ Nespresso เองในที่สุด และ ไม่มีการตรวจสอบอะไรที่ซับซ้อน ทำให้คนทำกาแฟอื่นๆเขาก็สามารถเข้าสู่วงจรการจำหน่ายกาแฟแคปซูลได้โดยที่ตัวเองไม่ได้ต้องขายเครื่องหรือออกแบบเครื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ นั่นก็แปลว่า ถ้าหากว่าเลี่ยง Dolce Gusto ได้ก็เลี่ยงจะดีกว่าเพราะ คุณกำลังจะโดนผูกขาดกับแบรนด์ที่จะเป็นผลเสียในระยะยาวสำหรับผู้บริโภคเช่นตัวคุณเองที่กำลังเลือกและตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกใช้เครื่องทำกาแฟแคปซูลรุ่นไหนอย่างไรดี อยู่ในขณะนี้

Dolce Gusto มีการออกแบบเครื่องดื่มที่เน้นไปที่การทำลาเต้ให้สะดวกขึ้น

นมเป็นสิ่งที่แคปซูลสำหรับ Nespresso นั้นไม่ได้รับการออกแบบเอาไว้ว่าจะทำอย่างไร ดังนั้นแล้วการใส่ฟองนมหรือสัดส่วนนมนั้นจะเป็นการกระทำของผู้ใช้นอกรอบเอง ซึ่งผู้ใช้ต้องหาทางเอานมเย็นแบบ Chill ช่องธรรมดายี่ห้อใดก็ได้ออกมาจากตู้เย็นแล้วทำการตีฟองเองด้วยเครื่องมือเท่าที่มี หรือ สำหรับ Nespresso บางรุ่นอาจจะมีเครื่องเคราเพื่อทำสืิ่งเหล่านี้ขายพ่วงมาด้วยซึ่งส่วนตัวแล้วมองว่าไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ คุณสามารถซื้อจากแบรนด์อื่นแล้วเทเติมเองได้อย่างอิสระ แต่สำหรับ Dolce Gusto นั้นมีการออกแบบเครื่องดื่มด้วยการเอานมสร้างออกมาเป็นแคปซูลอีกชิ้นหนึ่งซึ่งคุณสามารถสร้าง Layer ของฟองนมได้โดยการทำงานเหมือนกับแคปซูลของกาแฟแบบเดียวกันเลย แต่นมชาติของนมก็แน่นอนว่า มันไม่ได้เป็นนมสดแช่เย็นเหมือนกับการทำฟองนมปกติแต่อย่างใด

หากคุณเน้นกินกาแฟแบบ Espresso การเลือกเครื่องแคปซูล Nespresso ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี

เครื่องของ Nespresso ถือได้ว่ามีความซับซ้อนของเครื่องเครากระบวนการ และ options ในการใช้งานที่น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็นแล้ว ทำให้เครื่องมีการผลิตที่ประหยัดกว่าเครื่องประเภทอื่นๆ (เว้นแต่ว่าอยากจะเพิ่ม Design ให้มันแพงเข้ากับบ้านของคุณ) ซึ่งถือได้ว่าประหยัดแล้ว และ คุณสามารถเลือกยี่ห้อของแท้ไปเลยหรือจะเลือกซื้อจากแบรนด์ Third Party หรือกลุ่มสินค้า Non-brand เลยก็ยังได้ ด้วยเหตุผลเดียวกันก็คือ การออกแบบเครื่องและความซับซ้อนของการทำงานนั้นน้อยมากโรงงานจีนที่ผลิตสินค้านี้ได้ก็จะมีมากขึ้นทำให้ราคาเกิดความแข่งขันกันมากกว่ารุ่นของ Dolce Gusto

เสป็กเครื่องชงกาแฟโดยรวมที่คุณอาจจะต้องรู้และเป็นตัวเลือกมีดังต่อไปนี้

  1. ขนาดของปริมาตรน้ำที่ใส่เพื่อสต้อกเอาไว้ในเครื่องได้ แน่นอนมากก็จะดีกว่าแต่เครื่องมันก็จะใหญ่กว่าด้วย ให้คุณลองคิดว่าคุณอยากจะเติมน้ำเข้าเครื่องด้วยความถี่มากน้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับปริมาตรน้ำกาแฟที่คุณจะกินในแต่ละวันทุกๆวัน
  2. แรงดันของน้ำที่เครื่องจะดันมันผ่านไปที่กาแฟบดยิ่งมากเหมือนจะดี ส่วนมากแล้วมีการออกแบบที่ค่า 19 Bar เป็นแรงดันที่เครื่องชงกาแฟ Nespresso ออกแบบกันเพื่อให้เข้ากับขนาดของความละเอียดของกาแฟบดที่ใส่อยู่ใน Capsule นั้นแต่ที่แน่ๆ ถ้าหากว่าต่ำกว่านี้ไม่น่าจะดี เพราะ มันมีการออกแบบเอาไว้เพื่อล็อคค่าระหว่างกับ ความความละเอียดของกาแฟบดจะต้องเข้ากันได้กับระดับแรงดันน้ำที่ 19 Bar ทั้งนี้ถ้าหากว่าเครื่อง Nespresso ของยี่ห้ออื่นๆที่อาจจะให้ค่ามากกว่านี้ ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดีอะไร มันอาจจะรองรับกาแฟที่บดละเอียดลงไปอีกได้
  3. ความร้อนของน้ำปรับค่าได้หรือไม่หรือกำหนดเอาไว้คงตัว แน่นอนว่ามันจะเป็นลูกเล่นสำหรับ Brand แบบ Third Party เพื่อจะเอาเครื่องนี้กดน้ำร้อนที่ค่าอื่นๆได้ เพื่อเอาไปชงอื่นได้หรือกดเพื่อให้ได้น้ำร้อนออก แต่นั่นไม่ได้จำเป็นเลยสำหรับคนที่จะเอากินกาแฟแต่เพียงอย่างเดียว
  4. ปริมาณน้ำมีการกำหนดได้เป็นค่าคงตัวจำนวนกี่ค่า โดยปกติแล้วอย่างที่เล่าไปคือ อย่างน้อยก็จะมีสองค่าคือ Lungo ปริมาณมาก และ Espresso คือปริมาณน้ำน้อยตาม cc ที่เครื่องได้กำหนดเอาไว้แล้ว ถ้าหากว่ามันมีปริมาณน้ำที่เลือกได้เยอะกว่านั้นก็ถือว่าเป็น Options เสริมของเครื่องนั้นไปแทน

สรุปแล้วจะแนะนำรุ่นไหนกันแน่ขอฟันธงมาสักรุ่นได้หรือเปล่า ?

โอเคๆได้อยู่แล้ว ผมแนะนำแน่นอนว่าต้องเป็น Nespresso Essenza Mini เพราะเป็นรุ่น Official และราคาดีกว่ารุ่นอื่นๆแล้วโดย ผมแนะนำเพิ่มเติมว่าให้เข้าตรวจสอบข้อมูลราคาจากสองที่คือ Lazada และที่เว็ปทางการ Nespresso เพราะราคาอาจจะมีความแตกต่างกันพอสมควร ที่ไหนถูกกว่าก็ซื้อกันที่นั่นก็ได้ได้สินค้าหน้าตาเหมือนกันและเป็นของแท้แน่นอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *