"business" tag

การ OUTSOURCE งานขององค์กรปัจจุบันกับโอกาสธุรกิจที่สามารถสร้างมารองรับได้

แต่ก่อนหากองค์กรจะมีกิจกรรมอะไรสักอย่างหนึ่งมักจะเลือกให้มีคนมาทำงานเหล่านั้นแบบเต็มเวลา แต่เดี๋ยวนี้ องค์กรเหล่านี้จะมีทางเลือกเสมอว่า ถ้าหากว่างานนั้นยังไม่คุ้มค่ากับการที่จะมีคนทำงานเต็มเวลา องค์กรสามารถ outsource งานออกจากองค์กร เพื่อให้บุคคลธรรมดา (ไม่ใช่แม้กระทั่งห้างร้านบริษัท) ทำงานเหล่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมือนกัน โดยไม่ต้องจ้างได้หรือไม่ ถ้าหากว่าได้ นั่นอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าต่อองค์กรในการเลือกที่จะใช้งานคนเหล่านั้นแบบ “ไม่ต้องเสียค่าจ้างรายเดือน” จากการรับคนมาทำเต็มเวลาภายใต้กฏหมายแรงงานอื่นๆ ที่โดนพ่วงตามมาอีกมากมาย เช่น ต้องมีสวัสดิการสังคม ต้องทำระบบเงินเดือน ต้องทำระบบบันทึกขาดลามาสายและสรุปเป็นรายงาน ต้องมีการกำหนดชั้นลำดับในการติดตามงานระหว่างกัน หรือแม้กระทั่งต้องมีการออกแบบโครงสร้าง (KPI) เพื่อประเมินผลงานของพนักงานเหล่านั้นออกมา เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และเค้นประสิทธิภาพของคนเหล่านั้นที่รับมาแล้วเข้ามาทำงานหนึ่งๆในองค์กร

บันทึกเรื่อง business model canvas

Business Canvas Model นั้นเป็นเรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่ เพื่อทำให้มีภาพความคิดให้ครบทุกด้าน แล้วกลับมามองดูว่า business ที่จะสร้างขึ้นมานั้น ดูแล้วน่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ และจะต้องในกิจกรรมหรือทรัพยากรอะไรบ้าง เพื่อทำให้มันดำรงอยู่ได้ สำหรับเนื้อความนี้ ผมเองก็อ่านเนื้อหามาจาก website อื่นๆ ที่มีการพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว แต่ว่าผมเอามาย่อความตามความเข้าใจ เพื่อจะเอามาใช้งานในการ “คิดให้ครบ” (ในระดับหนึ่ง) ในการออกแบบธุรกิจใหม่ๆ

ทำไมองค์กรต้องแยกความรู้และทักษะของแผนกขายและผลิตออกจากกัน

การทำงานสำหรับองค์กรแล้ว ส่วนแผนกที่สำคัญสองแผนกคือ แผนกใดๆที่หาลูกค้าหรือติดต่อลูกค้า ไม่ว่าจะถูกเรียกในรูปแบบใดๆก็แล้วแต่ เช่น ฝ่ายขาย ทีมขาย พนักงานขาย และอีกแผนกก็คือ แผนกที่เป็นภาคผลิตหรือติดต่องานเพื่อทำให้การขายนั้นเกิดขึ้นสมบูรณ์ ไม่ว่าสิ่งที่ขายนั้นคือ สินค้าหรือบริการก็ตาม แผนกที่ว่านี้อาจจะเรียกว่า แผนก production แผนกประสานงานขาย co-sales หรือถ้าหากเป็นการซื้อมาขายไป ก็จะกลายเป้นจัดซื้อนั้นเอง (เพราะถ้าหากว่าซื้อมาขายไป ก็ซื้อนั้นก็อาจจะมองได้ว่าเป็นการบริการ) ทั้งสองแผนก ตามที่ผมได้ยกตัวอย่างไว้ สั้นๆต่อไปนี้ผมจะเรียกว่าแผนกขายและแผนกผลิตแล้วกันเพื่อความเข้าใจตรงกันแต่มันแค่คลุมความมาากกว่านั้นตามที่ได้อธิบายไปแล้ว สำหรับองค์กรแล้ว การทำงานจะต้องเป็นเรื่องของการประสานงานกันหลายฝ่ายที่มีทักษะและความสามารถไม่เหมือนกัน หรือ คนละขั้วกัน และ องค์กรจะต้องแยกงานเหล่านั้นออกมาเด็ดขาดจากกันอย่างสิ้นเชิงให้ได้ ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ของ การผลิตแข่งขัน…

Donut กับการ packing มีผลต่ออารมณ์และสายตาอย่างแรงจนแทบไม่น่าเชื่อ

เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อน ผมได้มีโอกาสสยามพาราก้อน แล้วก็เหลือบมองไปเห็นว่าร้าน โดนัท ที่ผมสังเกต และเดินผ่านเป็นประจำนั้น ปรากฏว่า คิวที่เห็นนั้นสั้นลงไปมาก ทำให้ได้เป็นคลื่นลูกที่สอง เพื่อลองดูว่า ร้านเค้ามีอะไรให้เลือกบ้าง แล้วหน้าร้านเป็นอย่างไร ? อาจจะแปลกใจว่า ทำไมผมไม่เคยเห็นหน้าร้านทั้งๆที่เดินผ่านประจำ เหตุผลก็ตรงไปตรงมาน่ะครับ เพราะ แต่ก่อนร้าน Donut ร้านนี้ คนต่อคิวกันเยอะ ทำให้บังหน้าร้านทั้งหมด เรียกได้ว่า บังมิดทำให้ผมแม้ว่าจะเดินผ่านก็มองไม่เห็นอยู่ดีว่าเค้ามีหน้าอะไรให้เลือกบ้าง หรือ ร้านเค้าวางของขายกันอย่างไร เมื่อคิวมันสั้นแล้ว ทำให้ผมมีโอกาสได้คิดที่จะลองเข้าไปต่อคิว โดยเมื่อเดินไปต่อแล้วก็งงเล็กน้อย เพราะว่า มีการแยกคิวระหว่างคนที่กะว่าจะมาซื้อ donut ประเภทหน้าที่เป็นแบบ…

เรื่องง่ายๆที่ต้องระวังและเรื่องที่พึงกระทำถ้าคุณมีร้าน offline และมี website Online

ถ้าหากว่าคุณมีหน้าร้านค้าจริงๆ แล้วอยากจะทำการ promote ผ่านหน้า web online แล้วล่ะก็สิ่งที่จะต้องระวังที่คุณอาจจะคิดไม่ถึงนั้นมีอยู่เยอะประการครับ ทีนี้ผมจะทำการสรุปเอาไว้เป็นประเด็นๆเลยดีกว่าว่า ถ้าหากว่าอยากจะทำนั้น คุณจะต้องระวังเรื่องอะไรกันมั่ง หรือ มีเรื่องอะไรที่น่าทำมั่งมั้ยน้อ .. อ่านได้จากบทความนี้เลยอ่ะครับ Domain name ไม่ได้สื่อถึงร้านของคุณ เช่นถ้าหากว่าคุณชื่อร้านกิ้กกู่คุณก็ต้องหา Domain name อะไรที่เกี่ยวข้องครับ เพื่อสื่อสารให้คนที่หลงเข้ามาที่หน้าร้านของคุณนั้น รู้แน่ชัดว่าเข้าถูกร้าน และ มันมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันกับร้านค้าโลกจริงของคุณครับ ไม่ใช่ว่าชือ่ domain name อย่างนึงแล้ว ชื่อหน้าร้านโลกจริงของคุณเป็นอีกชื่อนึงไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้อง หรือเหมือนกันแม้แต่น้อยก็จะทำให้เกิดความสับสนได้งวยงงได้น่ะครับ ความคิดนี้แม้ว่าจะเป็นความคิดพื้นฐาน แต่ก็มีคนงงๆ…

ตัวชี้วัดที่ร้านแบบ offline โดยใช้ concept ของ online มาประยุกต์วัด

(วันนี้อาจจะมาแปลกนิดหน่อยเพราะว่เนือ้หาเกือบทั้งหมดจะเป็นเรื่อง offline เกี่ยวกับร้านค้า แต่ก็หาเรื่องเอามาเทียบร้านค้าแบบ online น่ะหละครับ) แน่นอนว่าถ้าหากว่าคนที่เปิดร้านค้าแบบ offline เรียกว่าจะเป้นร้านค้าจริงๆที่มีคนเดิมผ่านไปผ่านมาเราสามารถที่จะกำหนดตัวชี้วัดได้เช่นเดียวกัน คล้ายหรือเหมือนกับโลก online โดยอาจจะใช้ศัพท์แสงแบบเดียวกันมาประยุกต์ใช้ได้เหมือนกันแต่ แน่นอนว่าวิธีการเก็บข้อมูลจะไม่ได้ทำได้ง่ายๆเหมือนกับที่หน้าร้าน online ทำได้ หน้าร้าน offline หรือร้านค้าจริงบนโลกเรานั้นจะมีพนักงานอยู่เพื่อที่จะทำการพูดคุยกับลูกค้าและตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วทันที เป็นการใช้ข้อมูลลูกค้าทางตรงแต่ทางตรงกันข้ามแล้ว การเก็บข้อมูลของลูกค้านั้นกลับทำได้ยากกว่า จะต้องออกแรงคิดเพื่อที่จะประเมินให้ได้ว่า หน้าร้านนั้นดี หรือไม่ดีในปัจจัยใด เพื่อจะมาประเมินต่อไปได้ว่า จะต้องทำการปรับเปลี่ยน factor ใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขายที่มากขึ้นมาได้อย่างเป็นระบบ แนวคิดนี้ผมอาจจะเอามานึกๆเพื่อเทียบกันได้ระหว่าง offline และ online ดังต่อไปนี้ครับ…

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com