ออกกำลังกายอย่างไรให้ได้ผล: เคล็ดลับสู่หุ่นในฝันด้วยหลักวิทยาศาสตร์

หลายคนใฝ่ฝันถึงรูปร่างที่สมบูรณ์แบบและสุขภาพที่แข็งแรง การออกกำลังกายเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ แต่การออกกำลังกายอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งในแง่ของการลดไขมันและการสร้างกล้ามเนื้อ ล้วนเป็นคำถามที่หลายคนยังคงสงสัย บทความนี้จะไขทุกข้อข้องใจเกี่ยวกับการออกกำลังกายอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจง่าย กำหนดเป้าหมายและลำดับการออกกำลังกาย ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกาย สิ่งสำคัญที่สุดคือการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ว่าต้องการลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือเพิ่มความทนทาน เพราะวิธีการและลำดับการออกกำลังกายจะแตกต่างกัน หากเป้าหมายคือการสร้างกล้ามเนื้อ ควร ยกเวทก่อน ทำคาร์ดิโอ เพราะการทำคาร์ดิโอก่อนจะทำให้ร่างกายอ่อนล้า ส่งผลให้ยกเวทได้ไม่เต็มประสิทธิภาพและไม่บรรลุเป้าหมาย ในทางกลับกัน หากต้องการเบิร์นไขมันเป็นหลัก ควรทำ คาร์ดิโอก่อน ยกเวท ร่างกายใช้พลังงานจากไหน? การเข้าใจกลไกการใช้พลังงานของร่างกาย เป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบโปรแกรมออกกำลังกาย ร่างกายมีแหล่งพลังงานหลายรูปแบบ โดยจะเริ่มจากฟอสฟาเจน (ATP-CP) ซึ่งมีอยู่น้อยและใช้สำหรับกิจกรรมระยะสั้นๆ ถัดมาคือคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมี 2 แบบ คือ แบบไม่ใช้ออกซิเจนและแบบใช้ออกซิเจน และสุดท้ายคือ ไขมัน ซึ่งร่างกายจะเริ่มนำมาใช้เมื่อระดับคาร์โบไฮเดรตในร่างกายลดลง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมการคาร์ดิโอเพียง 30 นาทีจึงอาจไม่เพียงพอต่อการเบิร์นไขมัน สำหรับผู้ที่ทานอาหารปกติที่มีคาร์โบไฮเดรต 60% และโปรตีน 30%…

อาหารเพียงสี่ประเภทที่คุณจะต้องลดละเลิกเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นโรคเกี่ยวกับ NCD และเบาหวานสำหรับคนเมือง

สำหรับประเด็นนี้เหมือนว่าจะได้รับการยืนยันกันไม่ได้นานสักเท่าไหร่แต่ตอนนี้ เหมือนว่า การเห็นปริมาณน้ำในเลือดที่สูงมากกว่าปกตินั้นตั้งแต่ 100 dl/mg ในนั้นเลือดมันจะทำให้เกิดปัญหาได้จริงๆและ มันจะเป็นสาเหตุของโรคต่างๆที่แตกแขนงออกไปเป็นวงจรพุ่งพร่านออกไปเป็นอันมาก การเข้าสู่การเป็นเบาหวานนั้นคือตัวที่บ่งบอกได้ดีที่สุดว่า ร่างกายนั้นโดยเชื่อมไปด้วยน้ำข้นหวานและน้ำเชื่อมในหลอดเลือดไปเสียแล้ว และนั่นเป็นปัญหาที่ร่างกายสติเราไม่สามารถรับรู้ได้จากอารมณ์หรือความรู้สึกใดๆเว้นแต่จะมีอะไรบอกเรา หรือ เกิดอาการอะไรก็แล้วแต่ว่ามันไปทำให้เกิดปัญหาในลักษณะใด เราไม่รู้หรอกว่าเรากินน้ำตาลไปมากน้อยแค่ไหน แต่การบริโภคอาหารหมวดคาร์โบไฮเดรตนั้น ก็เป็นอาหารที่ต้องกินเข้าไปเช่นเดียวกัน แต่การกำหนดว่า “มากเกินไป” นั้นแทบจะบอกไม่ได้หรือบอกได้ยากเอามากๆ หากเรามีสติรู้ตัวในการกินทุกครั้ง เราก็ยังบอกไม่ได้อยู่ดีว่ามันเยอะมากน้อยเกินไปหรือเปล่า !? นอกจากนี้แล้ว มันไม่ได้คิดง่ายๆแบบนั้น มันมีการควบคุมเพื่อการ “กราฟการเพิ่มขึ้น” และ การลดลงของค่าปริมาณน้ำตาลในเลือดจากการบริโภคอีกต่างหาก เรียกได้ว่า มันไม่ได้จบแค่ค่าเฉลี่ย มันต้องระวังกันไปถึง กราฟของค่าน้ำตาลนี้กันไปเลยก็ว่าได้    ทีนี้มันซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ แปลว่า สำหรับการรู้ตัวในการบริโภคน้ำตาลนั้น เราจึงคิดว่า สิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ก็แค่ตัดประเภทอาหารบางประการออกจากเมนูที่เราจะรับประทานออกไปเกือบทั้งหมดก็ทำได้ไม่ยาก ถ้าหากว่าจะกินมันถือว่า การกินมันเป็น…

บทเรียนจากหนังสือ Outlive: ศาสตร์และศีลแห่งการอยู่นานและอยู่ดี

บทความนี้สรุปเนื้อหาจากหนังสือ “Outlive: ศาสตร์และศีลแห่งการอยู่นานและอยู่ดี” โดยเน้นไปที่บทที่ 5 เกี่ยวกับ การกินน้อยลงเพื่ออายุที่ยืนยาวขึ้น ราปาไมซิน: โมเลกุลแห่งความหวัง เริ่มต้นจากการค้นพบโมเลกุลชื่อ ราปาไมซิน ในดินจากเกาะอีสเตอร์ ซึ่งเชื่อกันว่ามีพลังวิเศษในการรักษาโรค ราปาไมซินได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถยืดอายุขัยสูงสุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ราปาไมซินออกฤทธิ์โดย ยับยั้งการทำงานของโปรตีนเชิงซ้อน mTOR ซึ่งควบคุมสมดุลระหว่างการเจริญเติบโตของเซลล์และสารอาหารที่มีอยู่ เมื่ออาหารอุดมสมบูรณ์ mTOR จะทำงานและกระตุ้นเซลล์ให้เจริญเติบโตและแบ่งตัว แต่เมื่อขาดแคลนอาหาร mTOR จะถูกยับยั้ง เซลล์จะเข้าสู่โหมดรีไซเคิล สลายองค์ประกอบของเซลล์ และชะลอการเจริญเติบโต การทดลองในหนูพบว่า ราปาไมซินช่วยยืดอายุขัยของหนูได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยหนูเพศเมียอายุยืนขึ้น 13% และเพศผู้ 9% หากเทียบกับมนุษย์ การให้ราปาไมซินอาจทำให้ผู้หญิงอายุ 60 ปี มีอายุยืนยาวถึง 95…

เส้นเลือดในสมองแตก สัญญาณอันตราย! รู้เท่าทัน ป้องกันได้

สรุปเนื้อหาจากวีดีโอ แบ่งเป็นประเด็น ประเด็นที่ 1: ข่าวการเสียชีวิตของ คุณแทน ไร้เทียมทาน คุณแทน ไร้เทียมทาน ยูทูปเบอร์และพิธีกรชื่อดังสายรีวิวอาหาร เสียชีวิตแล้วด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก ประเด็นที่ 2: สถิติโรคหลอดเลือดสมอง ในประเทศไทยพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองเฉลี่ยชั่วโมงละ 4-5 คน และในปี ๆ หนึ่งจะมีคนเสียชีวิตประมาณ 30,000-35,000 คน วันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรค Stroke เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของโลก และเป็นสาเหตุของการเกิดความพิการในอันดับ 3 ของโลก ในปี 2563 มีผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ…

เอาชนะความอยากช็อกโกแลต: ไขความลับของระดับน้ำตาลในเลือด

อาการอยากของหวานหรือช็อกโกแลต เป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะช่วงบ่ายแก่ๆ หรือช่วงเย็น ความรู้สึกอยากทานของหวานแบบห้ามไม่อยู่ ทำให้หลายคนรู้สึกผิดและโทษตัวเอง แต่ความจริงแล้วอาการเหล่านี้ไม่ใช่ความผิดของคุณเลย ความลับของความอยากอาหารซ่อนอยู่ใน ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด: กุญแจสำคัญในการควบคุมความอยาก งานวิจัย “Circulating glucose levels modulate neural control of desire for high calorie foods in humans” เผยให้เห็นว่า เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลง สมองส่วนที่ควบคุมความอยากอาหารจะถูกกระตุ้น นั่นหมายถึงยิ่งระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมากเท่าไหร่ ความอยากอาหารก็ยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลอรี่สูง เช่น ช็อกโกแลต ของหวาน หรืออาหารที่มีไขมัน นอกจากนี้ การทานของหวานจะทำให้ร่างกายหลั่ง โดปามีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ความรู้สึกดีที่ได้รับจากโดปามีนทำให้เกิดพฤติกรรมการทานของหวานซ้ำๆ ยิ่งทานก็ยิ่งอยากทาน กลายเป็นวงจรที่ควบคุมได้ยาก Glucose Hacks:…

ระดับน้ำตาลในเลือด: การตรวจเลือดที่สำคัญกว่า Fasting Glucose

การดูแลสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจในสภาวะภายในร่างกาย และหนึ่งในปัจจัยสำคัญคือระดับน้ำตาลในเลือด การตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม หลายคนอาจคุ้นเคยกับการตรวจ Fasting Glucose หรือระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร ซึ่งเป็นการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยทั่วไป แพทย์จะสั่งตรวจ Fasting Glucose ปีละครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อภาวะเบาหวาน ระดับ Fasting Glucose ที่เหมาะสม: ระดับปกติ: ต่ำกว่า 100 mg/dL ระดับก่อนเบาหวาน: 100-126 mg/dL ระดับเบาหวาน: สูงกว่า 126 mg/dL อย่างไรก็ตาม นอกจาก Fasting Glucose ยังมีการตรวจเลือดอื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพของระดับน้ำตาลในเลือดและระบบเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น การตรวจเลือดที่สำคัญกว่า Fasting Glucose: ทำไม Fasting…

10 เคล็ดลับง่ายๆ ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตลอดชีวิต

ระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงขึ้นเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพมากมาย ตั้งแต่ความเหนื่อยล้าเรื้อรังไปจนถึงโรคเบาหวานประเภท 2 การเรียนรู้วิธีควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี บทความนี้จะนำเสนอ 10 เคล็ดลับง่ายๆ ที่ได้จากการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมาย เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ตั้งแต่วันนี้ 1. กินอาหารในลำดับที่ถูกต้อง การกินอาหารในลำดับที่เหมาะสมสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงขึ้นหลังมื้ออาหารได้ถึง 75% ลำดับที่แนะนำคือ: ผักมาก่อน: ผักมีไฟเบอร์สูง ช่วยสร้างเกราะป้องกันในลำไส้ ทำให้การดูดซึมน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตช้าลง โปรตีนและไขมันตามมา: โปรตีนและไขมันย่อยช้ากว่าคาร์โบไฮเดรต ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงขึ้น คาร์โบไฮเดรตเป็นลำดับสุดท้าย: ทิ้งข้าว, พาสต้า, มันฝรั่ง, ขนมปัง, และของหวานไว้เป็นลำดับสุดท้าย 2. เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยผัก เคล็ดลับนี้คล้ายกับข้อแรก แต่เน้นที่การเริ่มต้นมื้ออาหารด้วยจานผัก ซึ่งอาจเป็นผักสด, ผักสุก, ผักราดน้ำสลัด, หรือผักที่มีส่วนผสมของชีสเล็กน้อย ก็ได้ 3. หยุดนับแคลอรี่ แคลอรี่ไม่ได้บอกว่าอาหารนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง อาหารที่มีแคลอรี่เท่ากัน อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น แทนที่จะนับแคลอรี่…

ไขความลับ “น้ำตาล” : ความจริงที่อุตสาหกรรมอาหารไม่อยากให้คุณรู้

น้ำตาล เป็นส่วนผสมหลักในอาหารและเครื่องดื่มมากมาย หลายคนเชื่อว่าน้ำตาลบางชนิด “ดี” ต่อสุขภาพมากกว่าชนิดอื่น เช่น น้ำตาลจากผลไม้ น้ำผึ้ง หรือน้ำตาลทรายแดง บทความนี้จะเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับ “น้ำตาล” พร้อมไขกลยุทธ์ทางการตลาดที่บริษัทอาหารใช้ในการปกปิดปริมาณน้ำตาลที่แท้จริง ความจริงที่ #1 : น้ำตาลทุกชนิดเหมือนกันในสายตาร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำเชื่อม agave น้ำผึ้ง หรือแม้แต่น้ำตาลจากผลไม้ ร่างกายไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของโมเลกุลน้ำตาลได้ ทุกชนิดล้วนเป็นโมเลกุลเดียวกัน ร่างกายจะดูดซึมและเผาผลาญในรูปแบบเดียวกัน ความจริงที่ #2 : “สิ่งที่ห่อหุ้ม” น้ำตาล สำคัญกว่าแหล่งที่มา ผลไม้ มีน้ำตาลจริง แต่มาพร้อมกับ ใยอาหาร และน้ำ ซึ่งใยอาหารจะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อผลไม้ถูกแปรรูปเป็น น้ำผลไม้ สมูทตี้ ใยอาหารจะถูกทำลาย น้ำตาลจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างรวดเร็ว เหมือนการทานน้ำตาลทรายขาว ความจริงที่ #3 :…

เคล็ดลับลดระดับน้ำตาลในเลือด: กินอาหารในลำดับที่ถูกต้อง

ระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย และอาจนำไปสู่โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ในระยะยาว หลายคนมองหาวิธีลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่างได้ผล และหนึ่งใน วิธีที่ง่ายที่สุด คือ การกินอาหารในลำดับที่ถูกต้อง กินอย่างไรให้ถูกต้อง? ผัก: เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย ผัก เช่น สลัดผัก บรอกโคลี หรือผักชนิดอื่นๆ โปรตีนและไขมัน: หลังจากผัก ให้กิน โปรตีน เช่น เนื้อไก่ ปลา ไข่ และ ไขมัน เช่น อะโวคาโด น้ำมันมะกอก คาร์โบไฮเดรต: กิน คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ขนมปัง เป็นลำดับสุดท้าย ทำไมการกินอาหารในลำดับนี้ถึงได้ผล? ใยอาหารในผักจะสร้างชั้นป้องกันในกระเพาะอาหาร ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลการศึกษา ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าการกินอาหารในลำดับที่ถูกต้องช่วย ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้มากถึง 73% นอกจากนี้ ยังช่วย ลดความอยากอาหาร ลดการอักเสบ ปรับปรุงการนอนหลับ สุขภาพผิว และ ฮอร์โมน เริ่มต้นง่ายๆ ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอาหารที่คุณกิน เพียงแค่ปรับลำดับการกิน เริ่มต้นด้วยการกินผักเป็น “จานเรียกน้ำย่อย” (veggie starter) ก่อนมื้ออาหารหลัก เช่น สลัดผัก…

ไขมันอุดตันในหลอดเลือด ปัญหาสุขภาพที่ป้องกันได้

ในปัจจุบัน ประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ และกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นจำนวนมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักเกิดจาก “หลอดเลือดอุดตัน” อันเป็นผลมาจากการสะสมของไขมันภายในหลอดเลือด ภาวะดังกล่าวส่งผลให้หลอดเลือดตีบแคบลง ทำให้เลือดไหลเวียนได้ยาก ไขมันอุดตัน เกิดจากอะไร ? สาเหตุหลักของไขมันอุดตันในหลอดเลือด คือการรับประทานเนื้อแดง ซึ่งมีสารโคลีน และคาร์นิทีน เมื่อเรากินเนื้อแดงเข้าไป แบคทีเรียที่ไม่ดีในลำไส้ใหญ่จะเปลี่ยนสารเหล่านี้ให้เป็นสารพิษชื่อ TMA ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็น TMAO ที่ตับ สารพิษ TMAO นี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือด และนำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแข็ง การอักเสบของหลอดเลือด ปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่หลอดเลือดแข็ง เมื่อหลอดเลือดเกิดการอักเสบ เม็ดเลือดขาวชนิด โมโนไซต์ จะเข้าไปแทรกตัวอยู่ใต้ผนังหลอดเลือด และจับตัวรวมกับไขมันชนิด LDL ก่อตัวหนาขึ้นเรื่อยๆ กระบวนการนี้เปรียบเสมือนการฉาบปูนที่ผนังหลอดเลือดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผนังหลอดเลือดหนาขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดก็ตีบแคบลง เราสามารถล้างหลอดเลือดให้เหมือนใหม่ได้หรือไม่? น่าเสียดายที่เราไม่สามารถล้างหลอดเลือดให้สะอาดเหมือนใหม่ได้…