"thinking process" tag

กลยุทธ์ในการลดความเครียดจากเรื่องทุกอย่างในโลกนี้ แค่เข้าใจเหตุแห่งความเครียดและจัดการมันซะ !

ความเครียดโดยมากแล้วจะเกิดความแตกต่างระหว่างความเป็นจริง (reality) และสิ่งที่เราได้คาดหวังหรือคาดการณ์เอาไว้ (expectation) ถ้าหากว่าความแตกต่างจากสองสิ่งนี้มากขึ้นเท่าไหร่ เราเองก็จะรู้สึกได้ถึงความเครียดมากขึ้นเท่านั้น ลองคิดตามดูง่ายๆระหว่างความคาดหวังและความเป็นจริงที่แตกต่างของแต่ละสถานการณ์ เช่น ถ้าหากว่าคุณเป็นคนขับเป็นตำรวจจราจรและโดยกำหนดให้ว่าต้องไปออกแดดเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ความคาดหวังจาก มุมมองของคุณเองต่อการออกแดดนั้นก็คือ “คุณต้องไปออกแดดเพื่อปฏิบัติงาน” และ การออกแดดร้อนๆตอนกลางวันก็ไม่ได้เป็นสิ่งเกิดคาดออกไปแต่อย่างใดเมื่อคุณต้องไปออกแดดเพื่อโบกรถหรือจัดจราจรในสภาพจราจรที่ติดขัด แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าหากว่าคุณเป็นหนุ่มออฟฟิศที่คาดหวังว่าจะต้องอยู่ในสำนักงานแอร์เย็นฉ่ำและไม่ต้องโดนแดดตอนกลางวัน แต่วันหนึ่งคุณกลับโดนเจ้าของคุณเรียกให้ช่วยโบกรถของเจ้านายที่จอดคาเอาไว้ที่ถนนใหญ่หน้าสำนักงานของคุณเองตอนกลางวันแสกๆแดดร้อนๆ การออกแดดคราวนี้กลับเป็น การออกแดดร้อนที่เกิดจากความคาดหมายของคุณ ทำให้การออกแดดครั้งนั้นเห็นเหตุอันก่อให้เกิดความเครียดในที่สุด

ฟังแล้วคิดเสียก่อนว่าคนพูดเพื่อให้เราเชื่อนั้นมีเหตุผลอะไรอยู่เบื้องหลัง

ข้อมูลที่ไหลผ่านการรับรู้ของเราในตอนนี้ มีได้หลายช่องทางเอามากๆ ทำให้เราต้องมีความคิดในการกรองข้อมูลและเลือกที่จะเชื่อแบบมีข้อสงสัยเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งเชื่อไปเสียทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการบอกกล่าวจากเพื่อนฝูง ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือแม้ระทั่งคนที่เรานับถืออยู่ การโอนถ่ายของมูลไม่ว่าด้วยการพิมพ์(เขียน)เพื่อให้อ่าน หรือแม้การสื่อสารด้วยคำพูดภาษาเพื่อให้รับทราบได้ด้วยสัมผัสหู และไหลเข้าสมองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ยกเว้นคุณจะมีสุดยอดทักษะหูทวนลม และความสามารถในการปฏิเสธการรับรู้จากเสียง) เมื่อคุณได้รับเนื้อหานั้น สมองของคุณเองเบื้องต้นจะ “เชื่อ” และรับความสิ่งนั้นเป็นความจริงเสียก่อน ก่อนที่คุณจะเริ่มมีสติก็กรองข้อเท็จจริง ความคิดเห็น และจุดมุ่งหมายเบิ้องหลังออกจากกันได้ คนที่สื่อความมีจุดมุ่งหมายอะไรเบื้องหลัง ก่อนอื่นคุณต้องทราบก่อนว่า ไม่มีใครบอกอะไรคุณแบบไร้เหตุผล (แม้ว่ามันจะเป็นเหตุเป็นผลกันหรือไม่ก็ตาม) ไม่มีคำพูดขึ้นมาลอยๆ แม้ว่ามันเหมือนกับการพูดบ่นขึ้นมาลอยๆก็ตาม เช่น เห็นคนทำงาน แล้วพูดกับตัวเองว่าเหนื่อย แต่ความเป็นจริงแล้วคนที่พูดนั้นต้องเห็นเราเสียก่อน เพื่อที่บอกเอ่ยวาจาออกมาว่า “เหนื่อย” เพื่อให้เรารับรู้อะไรบางอย่าง และมีเหตุผลในการพูดแอบแฝงไว้ตั้งแต่ต้นอย่างไม่ต้องออกแรงคิดมาก…

แนวคิดที่ได้จากภาวะน้ำท่วม : การมีของมากนั้นเป็นภาระ ลดปริมาณชิ้นข้าวของในชีวิตให้น้อยลงกว่านี้ดีกว่ามั้ย?

เหตุการน้ำท่วมตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถือว่าผ่านพ้นไปเสียทีเดียว แต่ว่าในหลายๆพื้นที่ก็เริ่มมีอยู่สภาวะที่เป็นไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นแล้ว โดยบ้านที่โดนท่วมก็รู้ว่าท่วมไปแล้ว และอีกไม่นานก็จะลด หรือ ตอนนี้หลายพื้นที่ก็เริ่มมีระดับน้ำที่ลดลงกันแล้ว มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมมองว่า การที่น้ำท่วมบ้านเรือนคน จะทำให้หลายคนน่าจะมีแนวคิดเหมือนกับผมผุดออกมาบ้างนั่นก็คือ “การมีข้าวของเยอะเป็นภาระ” ปกติแล้ว คนเรามักจะมีข้าวของเยอะแยะมากมาย อยากได้เมื่อมีแล้วก็ไม่อยากทิ้ง ก็จัดการหาที่ทางเก็บมันเอาไว้ แม้ว่ามันจะไม่ได้ใช้ก็ตามที เพราะ แค่คิดว่า ถ้าหากว่ามีไว้อยู่ สักวันมันก็จะได้ใช้ (แน่นอนครับว่า “สักวัน” ต้องมีสักวันจะได้ใช้ครับ แต่ว่าเมื่อไหร่กันล่ะ แล้วมันต้องรอนานอย่างงั้นเลยหรือ) สิ่งของเหล่านี้กลับเป็นภาระขึ้นมาทันที ที่จะต้องย้ายมันขึ้นที่สูง ทั้งๆที่มันออกแบบมาให้วางเอาไว้แค่ชั้น 1 หรือระดับเดียวกับประตูทางเข้าบ้าน ถ้าหากว่าข้าวของนั้นยิ่งแพงมากเท่าไหร่ เราก็จะคิดว่า มันต้องเก็บรักษามันเอาไว้ให้อย่างดีให้มันอยู่รอดปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ทั้งๆที่จริงๆแล้ว…

วิธีการคิดลงทุนซื้อของโดยคิดเทียบกับเวลาที่เราใช้งาน

เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับ concept ในการเลือกซื้อสินค้า หรือเลือกที่จะจ่ายอะไรและไม่จ่ายอะไรโดยใช้เวลาเป็นตัว Distribute เงินออกไปซึ่งผมว่า มันก็ฟังดูใช้ได้เลยอยากจะเอามาเล่าให้ฟังเสียหน่อยว่า มันเป็นยังไงกันแน่ กับการที่เลือกจ่ายเงินกับสิ่งของรอบตัวตามเวลาที่เราจะใช้มัน ปกติแล้ว คนเราจะเลือกที่จะจ่ายเงินเพื่ออะไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากจะได้มันมากแค่ไหน แล้ว เราเห็นคุณค่าของมันมากแค่ไหน และในทางกลับกันก็คือ เรามีมุมมองต่อมูลค่าเงินที่เรามีอยู่มากแค่ไหนด้วย เช่น ถ้าหากว่าเราคิดว่า เราจะซื้อรถมาสักคัน เราเอาอะไรเป็นเงื่อนไขว่ามันมีมูลค่ามากแค่ไหน ได้จากความคิดความอ่านของเราเอง เช่น เราต้องการความปลอดภัยมากแค่ไหน เราต้องการภาพลักษณ์ของคนอื่นที่มองมาที่รถเรามากแค่ไหน ต้องการให้รถนั้นแสดงฐานะทางสังคมหรือไม่ หรือ การตลาดของ Brand นั้นๆ ทำให้เรารับรู้ถึงคุณค่าของ Brand ได้มากแค่ไหน…

น้ำท่วมครั้งนี้ประชาชนคนธรรมดาจะมีความคิดที่แปลกแตกต่างไปอย่างไรบ้าง?

วันนี้ก็นั่งนึกว่า น้ำท่วมครั้งนี้มันกินพื้นที่คนเมืองมากและทำให้คนเดือดร้อนกันถ้วนหน้า และ ทำให้คนไทยรู้กันด้วยว่า เรื่องน้ำท่วมไม่ได้เป็นเรื่องเล่นๆ และ การจัดการน้ำ จะต้องเอาคนที่ฉลาดที่สุด เข้ามาจัดการเพื่อที่จะทำให้ทุกคนอยู่กันได้อย่างเป็นปกติสุข ก่อนหน้าที่จะเกิดปัญหาเรื่องน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นน้ำแล้งหรือน้ำท่วมก็สุดแล้วแต่ คนกรุงฯ น่าจะมองว่า เรื่อน้ำท่วมเป็นเรื่องไกลตัว เพราะ ส่วนมากแล้ว มักจะออกข่าวที่หน้าจอทีวีว่า จังหวัดนู้นจังหวัดนี้น้ำท่วม พื้นที่การเกษตรไปแล้วกี่ไร่ อะไรก็ว่าไป และไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนแต่ประการใด เพราะ มันไม่ได้เป็นพื้นที่ของเรา อะไรทำนองนั้น สภาพน้ำท่วมที่อยู่ที่โซนพื้นที่อื่น แทบจะไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรโดยตรงหรือสร้างความเดือดร้อนโดยตรงกันพื้นที่ที่แห้งอยู่เลยแม้แต่น้อย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับการท่วมครั้งไหนๆ คนกทม. มีโอกาสได้ประสบการณ์น้ำท่วมกันถ้วนหน้า ในเขตพื้นที่ ที่ไม่เคยท่วมมาก่อน ก็ไม่ได้แปลว่า จะไม่ท่วม…

สุดยอดแนวคิดและวิธีจัดการงานส่วนตัวของคุณเองอย่างเป็นระบบที่ผมใช้ในชีวิตอยู่ทุกวันนี้

การจัดการ task และ project สำหรับหัวหน้างาน หรือ คนทั่วไป เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องเรียนรู้และ มีความสามารถในการจัดการครับ โดยเฉพาะถ้าหากว่าคุณอยากจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือ ว่าคุณอยากจะให้ลูกน้องของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ระบบจัดการงานนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้กันเลยก็ว่าได้ครับ วันนี้ผมก็จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับ concept ในการจัดการ task และกำหนดงานเพื่อติดตามงานแบบสังเขปให้ฟังกันสั้นๆแต่ได้ใจความกันก็แล้วกันนะครับ คนที่รู้สึกเครียดและรู้สึกว่างานชั้นมันเยอะเหลือเกินแล้ว เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เค้าเหล่านั้นรู้สึกตึงๆ และรู้สึกว่างานเยอะอย่างงั้น ก็เพราะ ไม่ได้มีระบบในการจัดการงานของตัวเค้าเองเลย หรือ แม้กระทั่งตัวคุณถ้าหากว่าคุณยังคงงงๆ และ รู้สึกว่า ทำไมชั้นงานเยอะแยะเต็มไปหมด (แล้วก็พาลทำให้คุณเครียดอีกต่างหาก) แบบนี้แล้วล่ะก็ ผมยินดีด้วยน่ะครับว่า คุณก็เป็นคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีการจัดการเรื่อง task…

มุมมองวิเคราะห์ว่า ทำไมเราถึงรู้สึกอยากซื้อ coupon จากพวกเว็ปขาย Deal

ผมสังเกตว่าหลังจากที่มีจังหวะหนึ่งที่ Google จะเข้าซื้อกิจการของ Groupon เมื่อประมาณเดือนก่อนที่ผ่านมา ทำให้เหมือนว่าทุกคนรู้จักเว็ปประเภทขาย coupon มากขึ้น และแล้วเว็ป copy cat ทำเป็น local โผล่อออกมามากมายโดยเฉพาะเว็ปไทยๆ ทำให้เราได้เห็นว่ามีคนร้านค้าร้านอาหารอะไรที่ดูน่าอร่อยโผล่ออกมาพร้อมกับ “ข้อเสนอสุดพิเศษ” ในด้านราคาแบบวิเศษสุดๆ ไม่สามารถอดใจไว้ได้ ผมก็มานั่งคิดสักพักว่า มันมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เหมือนกับว่า เราอยากจะซื้อ coupon ส่วนลดพวกนี้มากนัก และอะไรบ้างที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าที่เป็นแค่คูปองส่วนลดแบบกันแน่ ? แสดงเวลา หรือการจำกัดเวลา การแสดงเวลาที่จำกัดก็เพื่อทำให้เกิดสภาวะความขาดแคลน (ทางเวลา) เพื่อให้คนที่จะซื้อเกิดการตัดสินใจซื้อที่รวดเร็วถ้าหากว่าไม่ได้ซื้อตอนนี้จะไม่มีให้ซื้ออีกต่อไป เพราะงั้นถ้าหากว่าตอนนี้คิดว่าคุ้มค่าก็ต้องซื้อเอาไว้ก่อนเป็นดีแน่แท้ครับ ต้องนับกันเป็นวินาทีให้เห็นเลยก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันกำลังจะหมดไปให้ตายสิ ไม่ซื้อไม่ได้แล้วน่ะครับแบบนี้…

สังเกตกันมั้ยว่าเมื่อเราติดไฟแดง เราจะเอามือถือออกมาเล่น !

  ผมเพิ่งสังเกตตัวผมเองแล้วก็ไปถามเพื่อนๆผมไม่กี่คนน่ะครับ ว่า รู้สึกเหรอป่าวครับว่า ถ้าหากว่าเราไม่ได้ต้องนัดหลายไปไหนด้วยเวลาที่ต้องแน่นอนหรือมีเวลามาบีบบังคับกันมากๆ แล้วเราเดินทางอยู่ในรถ เมื่อรถติดไฟแดงหรือว่ารถติดจากสภาพจราจร เราจะรู้สึกเดือดร้อนน้อยลงไปกว่าแต่ก่อนมากมายนัก เหตุผลก็ไม่ยากน่ะครับ เพราะว่า เมื่อรถติดเราจะเอามือถือออกมา ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือว่า BB หรือว่าพวก Andriod phone ทั้งหลายแหล่ ควักมันออกด้วยมือข้างทีว่างๆไม่ได้จับพวงมาลัย หรือว่ากรณีที่เป็นรถติดไฟแดงนี่ ก็ปรับเกียร์เป็น Gear N หรือว่าเหยียบเบรคเอาไว้แล้วก็เอามือถืออกมาเล่น ทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อให้เวลามันเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว มันก็จะทำให้เราไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนตอนที่เราติดไฟแดงยังไงล่ะครับ เมื่อเรามีสมาธิกับเรื่องอื่นๆที่ไม่ได้เป็นเรื่องของตัวเลขนับเวลาไฟแดง ทำให้เวลาไฟแดงนั้นผ่านไปเร็วมากๆ เพราะ เราทำกิจกรรมอื่น ที่แต่ก่อนที่จะมีอุปกรณ์สื่อสารพวกนี้ (และ…

คิดลบและคิดบวก ฝึกคิดสลับไปมาเพื่อให้ได้ภาพกว้างขึ้นและการตัดสินใจที่ฉลาดกว่าเดิม

หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า “ทำไมคุณเป็นคิดลบแบบนี้?” หรือไม่ก็ “ทำไมคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไป” ซึ่งทั้งสองกรณีที่ได้ยินบ่อยๆจะเป็นลักษณะของคำตำหนิจากคนอื่นที่มองการคิดผูกติดไว้กับคน ซึ่งแท้ที่จริงแล้วผมอยากจะบอกว่า คนเราจะคิดลบหรือคิดบวกได้นั้นมันมีเหตุผลหลักจากประสบการณ์ หรือ สิ่งที่โดนปลูกฝังหล่อหลอมมุมมองความคิดของคนคนนั้นออกมา ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เจอโกงมาก่อน คุณก็จะคิดว่าคนอื่นน่าจะมีไม่โกงคุณ แต่ในทางกลับกันถ้าหากว่าคุณเจอโกงมาก่อน คุณก็จะมีแนวโน้มเฝ้าระวังว่าคนอื่นจะมาโกงคุณในเรื่องเดียวกันนั้นได้ ทั้งๆที่คนสองคนที่คิดสองแบบ เจอกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วก็ตามที แต่อย่างไรก็ดี วิธีการที่ดีทีสุด สำหรับการคิดบวกและคิดลบนั้น มุมมองที่คุณเองต้องเข้าใจเสียใหม่ ซึ่งผมก็เพิ่งเข้าใจได้ไม่นานนี้ว่า เราสามารถเลือกโหมดการคิดเพื่อเห็นสถานการณ์ และ ปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ทั้งการคิดบวกและคิดลบ ให้เหมาะสมกับความต้องการ หรือ เป้าหมายของกิจกรรมนั้นได้ ผมต้องบอกแบบนี้ดีกว่า ฐานความคิดของผมจะเป็นคนคิดบวก และจะมองคนที่คิดลบ หรือ คิดระแวดระวังไปหมดว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไร้สาระ หาเรื่องหาราวที่มีประโยชน์กว่านี้ทำไม่ได้แล้วหรือไร ถึงได้มองโลกตันไปซะทั้งหมดอย่างงั้น…

ราคาโดนัทผี มูลค่าของสินค้าที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ?

ครั้งก่อนถ้าหากว่าอ่านย้อนไปผมเคยคุยให้ฟังเรื่องของโดนัทที่เป็นประวัติศาสตร์เรื่องของความยาวในการต่อคิว และ เวลาที่จะต้องใช้ไปเพื่อกาต่อคิวเพื่อที่จะได้ซื้อเอาไปให้คนอื่น หรือ เอาไปให้คนอื่นที่ไม่อยากต่อแถวกิน ราคาถ้าหากว่าเป็นโดนัทฉาบน้ำตาลธรรมดาจะมีราคาขายหน้าร้านที่แน่นอนไม่ได้ผันผวนเหมือนกับตลาดหุ้นแต่ประการใด แต่โดนัทผี ทำให้ราคาแกว่งได้ด้วยราคาตลาดที่มีการประเมินมูลค่าอื่นๆผนวกเข้าไปด้วยอย่างไม่น่าเชื่อ ! มีกรณีศึกษา(ส่วนตัว)อยู่กรณีหนึ่งว่า ราคาโดนัทผีสักเท่าไหร่ที่คนคนหนึ่งจะซื้อและมีวิธีการคิดเพื่อที่จะซื้อหรือไม่ซื้อโดนัทผีนั้นอย่างไร ? เหตุการณ์ก็ดำเนินการไปแบบนี้ครับ เมื่อเจอคนขายโดนัทผี เราก็จะตรงเข้าไปแล้วก็ถามว่าขายเท่าไหร่ สิ่งที่ได้รับคำตอบกลับมาก็คือ 400 บาทฟังดูเหมือนว่าเป็นราคากล่องโดนัทที่แพงไม่ใช่เล่นถ้าหากว่าลองคิดเป็นชิ้นๆดูแล้วจะตกที่ชิ้นละ 400/12 = 33.33 บาท เมื่อเทียบกับจ้าวอื่นๆแล้วแม้ว่าจะซื้อเป็น pack แบบนี้แทนที่จะถูกกว่าโดนัทขายปลีกยี่ห้ออื่นๆแต่ก็ยังจะแพงกว่าอยู่ดี (อย่างว่าน่ะครับ นี่มันราคาโดนัทผีนี่ครับ) แต่เรื่องราวยังไม่ได้จบแต่ว่าเมื่อเราได้รู้ราคาแล้ว กระบวนการคิดเพื่อประเมินว่าราคานี้คุ้มค่าในการซื้อหรือไม่ ก็จะเริ่มขึ้นต่อไป โดยพนักงานขายโดนัทผีก็ให้ข้อมูล(หลอก)เพื่อเติมว่า เนี่ยะเค้าขายกล่องนี้ได้ค่าดำเนินการทั้งหมดก็แค่ 50…

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com