จะเลือก Tablet หรือ SmartPhone โทรศัพท์ Android จะต้องดูอะไรบ้าง? แล้วมันอ่าน Spec กันยังไง?

Android phone หรือ tablet ดู Spec อย่างไร

คำเตือนบทความนี้สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็น IT จ๋าและไม่ได้เป็นนักรัก Gadget ครับผม

เรื่องนี้เป็นความรู้ทั่วไปสำหรับการเลือก Smart Phone หรือ Tablet เพราะว่าเครื่องในของมันนั้นมันมีอะไรหยุมหยิ๋มที่ถ้าหากว่าเป็นคน IT จะไม่ค่อย Get สักเท่าไหร่ ถ้าหากว่าคุณเกิคว่าต้องเลือกซื้อของอะไรทำนองนี้ลองทำความเข้าใจง่ายๆในแต่ละประเด็นต่อไปนี้ ก็ดีครับผม

เลือก tablet หรือ โทรศัพท์ SmartPhone ประเภท Android จะต้องดูอะไรบ้าง?

– Brand สินค้าของ Smarphone หรือ Tablet : ก่อนอื่นถ้าหากว่าคุณไม่แน่ใจและไม่รู้ว่าอะไรเลยแนะนำว่าให้เลือกจาก Brand เสียก่อนเพราะมันเป็นตัวบ่งบอกความเชื่อใจได้ของสินค้าระดับหนึ่ง แต่เนื่องด้วยมันเป็น Brand แล้วแปลว่า คุณก็จะต้องเสียเงินกับค่า Brand เพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นค่าการตลาดเรื่อง Brand หรือว่าค่าโฆษณา ร้านค้าและอื่นๆอีกมากมาย และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนที่ คนอย่างคุณจะต้องแบกรับอีกด้วยตอนที่ซื้อสินค้าไปด้วยอยู่ดีครับ

– CPU ซีพียูของเครื่อง เป็นเรื่องที่อธิบายให้ฟังได้ยากมาก เพราะว่า แต่ละรุ่นแต่ละแบบก็จะมีความ spec. ที่เป็นพิเศษพิศดารของมันอย่างต้องรู้ลึกรู้จริงถึงจะเข้าใจได้ซึ่ง คุณอาจจะถามคนขายได้ไม่ยากว่า CPU mใช้นั้นเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดไฟหรือไม่ (แต่ว่าเค้าบอกว่าว่าเป็นรุ่นอะไรอย่างไรคุณเองก็จะไม่รู้อยู่ดีนั่นเอง) ลองดูที่ประเด็นอื่นเพิ่มเติม หรือ ตอนที่ใช้งานแบบ Demo ก็จะสามารถบอกความสามารถเครื่องได้อีกครับ

– Display resolution ของหน้าจอ : มันแปลว่า “ความละเอียดหน้าจอ” เนื่องจาก หน้าจอไม่ว่าจะเป็น tablet หรือ SmartPhone จะมีหน้าจอที่มีขนาดเล็ก แต่มันไม่ได้สื่อความโดยตรงถึงความละเอียดหน้าจอได้มากนัก แล้ว ถ้าหากว่าหน้าจอใหญ่กว่าก็ไม่ได้แปลว่า จะให้ค่าความละเอียดหน้าจอได้ดีกว่าอีกเหมือนกัน กลับทางกันถ้าหากว่าหน้าจอใหญ่แล้วความละเอียดหน้าจอมันน้อย ก็จะทำให้คุณเห็นตัวอักษรแตกๆ อ่านหรือดูอะไรแล้วก็จะออกแนวเบลอๆครับ โดยมากแล้วหน้าจอยี่งความละเอียดเยอะยิ่งดีครับ และตอนนี้ ถ้าหากว่าหน้าจอออกมาเป็น wide screen ก็จะดีขึ้นไปอีกเพราะว่า มันจะแสดงภาพฉายหนังหรือ youtube ด้วยขนาดที่ดูเหมาะสมลงตัวมากกว่าที่เป็น 4:3 (แบบหน้าจอทีวีบ้านเราธรรมดา) สัดส่วน 4 ต่อ 3 นั้นหมายความว่า ด้านยาว 4 ส่วน ด้านกว้าง 3 ส่วน หรือว่าเป็น Wide Screen สัดส่วนจะออกมาเป็น 16:9 ก็คือด้านยาว สิบหกส่วนและด้านกว้าง 9 ส่วน เพราะฉะนั้นถ้ากว่าคุณจะถามประเด็นนี้ก็แค่ถามว่า “หน้าจอเป็น Wide Screen หรือไม่ แล้วเรสโซลูชั่นเป็นเท่าไหร่?” ลองฟังหลายตัวเปรียบเทียบถ้าหากว่าเลขยิ่งมากยิ่งดีครับผม

– Touch Panel หรือจุดสัมผัส ของหน้าจอเครื่อง Smartphone หรือ Tablet : หน้าจอทั้งหมดไม่วาจะเป็น Smart Phone หรือว่า Tablet การจิ้มคือเรื่องที่สำคัญมากที่สุดประการหนึ่งในการใช้งาน โดยแล้วเครื่องก็บอกว่าเป็นหน้าจอแบบ Multi touch (เมาติทัช) แปลว่า แตะได้หลายตำแหน่งพร้อมกันเครื่องก็รับรู้ เรื่องราว มันมีอยู่ว่า แต่ก่อนหน้าจอมันรับรู้ตำแหน่งการกดได้แค่ 1 ตำแหน่ง (ตำแหน่งกดล่าสุดเท่านั้น) หรือว่าอย่างมากก็ 2-3 ตำแหน่ง แต่ว่าตอนนี้ หน้าจอได้มีการพัฒนาไปจากเดิมมากแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าหากว่าคุณจะดูประเด็นเรื่องการสัมผัสหน้าจอ คุณต้องถามเค้าว่า “มันเป็น capactitive Touch Screen หรือเปล่า แล้วมันรับจุดสัมผัสมพร้อมกันได้มากที่สุดกี่จุด?” ผมต้องบอกด้วยว่ามันต้องเป็น capactiitive เท่านั้นเพราะว่ามันเป็นระบบสัมผัสมหน้าจอเหมือนกับที่ iPhone ใช้และก็ใช้กันอย่างแพร่หลายมากๆ ณ ตอนนี้ ถ้าหากว่าเป็นการสัมผัสระบบอื่น มันจะเป็นเรื่องเก่ามากหรือว่า มันก็จะเจ๋งกว่าที่เราๆท่านๆจะรู้จักกันได้ครับ ระบบสัมผัสแบบนี้จะรับรู้การสัมผัสจากเนื้อเท่านั้น คุณเอาปลายปากกาไปกดหน้าจอไม่ได้และนี่ถือว่าเป็นหลักการที่ถูกต้องครับ ไม่เหมือนแต่ก่อนต้องเอาปากกามาจิ้มมันเท่านั้น

สมาร์ทโฟน หรือ tablet มีลง Android OS version อะไร : มันก็คือเวอร์ชั่นของแอนดอร์ยที่ติดตั้งเอาไว้ในเครื่องเมื่อคุณได้เครื่องมาครับ ถามเค้าไปเลยว่า “นี่มันเป็นแอนดอยเวอร์ชั่นอะไรอ่ะ?” ถ้าหากว่าตอนนี้ Google ได้มีการพัฒนา Android version ออกมาเป็น 4.0 หรือมากกว่านั้นแล้ว ถ้าหากว่าต่ำกว่านั้นก็ไม่ได้แปลว่ามันไม่ดีน่ะครับ แต่ว่ามันเจ๋งเท่ากับ 4.0 หรือตัวที่สูงกว่าไม่ได้เท่านั้นครับ (เพราะว่ามี application ที่สร้างมาใหม่ๆมันก็จะไม่สร้างเพื่อรองรับ Android version ที่เก่ามากๆเป็นต้น หรือในทางกลับกันก็แปลว่า Android version เก่าๆก็จะไม่รองรับ App ใหม่ๆนั่นเอง พูดให้งงกันเล่นครับผม) นอกจากนี้ Version ของ แอนดรอยด์นั้นจะ upgrade ได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องหนึ่งครับ เพราะว่าการ upgrade ได้หรือไม่เป็นเรื่องของเครื่องเคราด้านในว่าได้มีการออกแบบเอาไว้เพื่อรองรับ Android version สูงสุดเอาไว้เป็น Version ใดครับ เพราะงั้นก็ถามคนขายเค้าไปอีกหน่อยว่า “มันจะ upgrade Android เป็น versionสูงสุดได้เป็นเวอร์ชั่นอะไร? และ ตอนนี้ คุณ upgrade ให้ด้วยได้หรือไม่?” อะไรทำนองนี้น่ะครับ อย่างว่าล่ะครับยิ่ง version สูงยิ่งเจ๋ง แต่ว่าถ้าหากว่า เครื่องเคราด้านในของอุปกรณ์ตัวนี้ไม่เหมาะที่จะ upgrade ก็จะทำให้เครื่องช้าได้ครับ เพราะงั้นถ้าหากว่า คุณเอามาใช้แล้ว มันก็ไมไดช้าอะไรแล้ว รับได้กับ Appที่มีให้โหลดๆกันก็ไม่แนะนำให้ไป upgrade Android version ครับผม

– กล้องหน้ากล้องหลัง : เรื่องของกล้องจะไม่ได้เกี่ยวกับประสิทธิภาพเครื่องแต่อย่างใด แค่เป็นประเด็นที่คุณอาจจะใส่ใจครับ กล้องส่วนมากแล้วตอนนี้ทุกอุปกรณ์จะมีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง หรือถ้าหากว่าคุณดูแล้วว่ากล้องหน้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องเอาก็ได้ นั่นก็แปลว่า ต้นทุนที่คุณต้องจ่ายก็น้อยลงไปตามปริมาณกล้องด้วยเหมือนกันครับ แล้ว กล้องก็จะมีเรื่องความละเอียดของภาพที่ถ่ายเกี่ยวข้องครับ โดยมากแล้วกล้องหน้าก็จะละเอียดน้อยกว่า กล้องหลังเป็นธรรมดา ก็ดูหรือถามว่ากล้องหน้ากี่เม็ก กล้องหลังกี่เม็ก ถ้าหากว่ากล้องหลังสัก 2 เม็กก็คิดว่าน่าจะพอแล้วกับกาถ่ายภาพทั่วไปครับ ถ้าหากว่าเป็น Brand ดีๆจะมี Spec. กล้องที่ดีที่ส่วนมากแล้ว จะไม่มีการบอกมากไปกว่าว่ากล้องมีความละเอียดในการถ่ายภาพเท่าไหร่ (กี่เม็กนั่นเอง) เท่านั้นเองครับ เราไมอาจจะรู้ได้ว่ามันเป็นกล้องเลนส์จากที่ไหน ใช้ของยี่ห้ออะไรในการผลิตเป็นต้น

G-Sensor : มีหรือเปล่า ? เข้าจีเซนเซอร์ไม่ได้เป็นไว้เซนเซอร์อะไรหรอกน่ะครับ แต่ว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่ใส่เอาไว้ในเครือ่งเพื่อให้เครื่องมันรับรู้ว่าตอนนี้เครื่องโดยวางนอนเอียงดั้งหรือว่าคว่ำหน้าอยู่ เรียกง่ายๆก็เหมือนกับ “น้ำหนวกในหูเรานั่นเอง” ตอนนี้ผมคิดไม่ออกว่า มันใช้ประโยชน์อะไรมากมายนัก นอกจากเอาไว้เล่นเกมส์ครับ แต่ว่าแน่นอนว่า ถ้าหากว่ามีก็ดีกว่าไม่มีนั่นเอง (ประโยชน์ในการใช้งานไม่เยอะมากและ app ที่เรียกใช้เจ้าระบบนี้ก็ไม่ได้เยอะแยะด้วย)

I/O Ports : รูที่เสียบได้กับอุปกรณ์นี้รอบตัว มันมีรูอะไรบ้างแล้วก็มันเสียบอะไรได้บ้างอย่างละกี่รู ผมแนะนำว่า อย่างน้อยมันต้องมีรูต่อไปนี้เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมครับ คือ รูเพื่อเอาไว้เสียบหูฟัง (หรือมันจะเป็นรูไมโครโฟนในตัวเลยครับ และแนะนำให้เป็นอย่างงั้นด้ว) และถ้าหากว่ามีรูเสียบไมท์แบบนี้ก็ต้องให้สายไมท์มาด้วยเหมือนกันนะครับ รูเพื่อเอาไว้เสียบไฟเข้า (แน่นอนว่าก็ต้องแถม adaptor เสียบไปมาด้วยเหมือนกัน) ถ้าหากว่ามันมีรูมากกว่านี้ก็ลองดูน่ะครับ หรือว่าไล่ถามไปว่า แต่ละรูมันเอาไว้ทำอะไรบ้างครับ ที่ผมบอกอย่างงี้ก็เพราะว่า ผมใช้แค่เท่านั้นเองครับผม

ก้อนพลังงานหรือแบทตารี่เป็นแบบไหน : สิ่งที่คุณต้องรู้อีกอย่างก็คือกำลังจุของก้อนแบทที่จะติดมากับเครื่องให้คุณเมื่อคุณซื้อมาครับ มันต้องเป็น Lithium-ion (จนกว่าจะมี technology ที่ดีกว่านี้) แล้วก็มีค่า mAh (มิลลิแอม) ที่มากเข้าไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะว่า ตอนนี้อุปกรณ์มันใช้ไฟฟ้ามากเพราะว่าเราเปิด App มากแล้วแต่ละแอพก็เรียกใช้อุปกรณ์เครื่องในมากทำให้กินไฟนั่นเอง ไม่เหมือนกับโทรศัพท์ธรรมดาที่โทรออกรับสายเข้าได้ มันไม่ได้ใช้อะไรมาก ทำให้ถ่านมันอยู่ได้นานมากกว่าครับ อย่าเพิ่งตกใจว่า ถ่านมันเสื่อมหรือเปล่า ถ้าหากว่าคุณไม่เคยใช้ Smart Phone มาก่อน มันก็อาจจะทำให้รู้สึกหงิดนิดหน่อยได้ เพราะ ถ่านมันกินเหลือเกินเมื่อเทียบกับโทรศัพท์ธรรมดาครับ แนะนำว่าอย่าเอามาเทียบกับ เพราะอรรถประโยชน์มันเยอะไม่เท่ากันครับผม โดยมาแล้ว อุปกรณ์จะต้องอยู่ได้ครบวันโดยไม่ต้อง charge แต่มันอาจจะเหลือไม่เกิน 50% แล้วก็ต้องทำการ charge ใหม่แบบนี้ถือได้ว่าเป็น Battery Life time ที่ดูปกติ ถ้าหากว่าตำกว่านี้ ให้สันนิษฐานเอาไว้ก่อนว่าคุณใช้ไม่เป็นครับผม ต้องปิด app อะไรที่เปิดค้างเอาไว้เพื่อลดการกินไฟครับ ผมยกตัวอย่าง iPhone มี 2400 mAh ถ้าหากว่าเป็น tablet มันก็จะมีพื้นที่ใส่ถ่านมากกว่า แนะนำว่ามันต้องมากกว่า 8000 mAh ครับผม

– Wifi บนเครื่อง SmartPhone หรือ tablet รับเคลื่อนแบบไหนได้บ้าง มันมี แบบ b แบบ g และ แบบ n ที่ด้านหน้าเครื่องจะเขียนเอาไว้ว่า Wireless LAN 802.11 b/g/n ก็แปลว่ามันรับได้ทั้งหมด สามแบบอย่างที่ว่าไปครับผม แนะนำว่าต้องเป็นแบบนี้เท่านั้นน่ะครับ ความหมายของมันก็คือ เคลื่อนความถี่ตอนนี้ที่ใช้กับเพื่อปล่อย wifi มันมีด้วยกันสามย่านความถี่ โดย b เบาสุดใกล้ และ n ไกลสุดแรงสุดถ้าหากว่า เครื่องแถวนั้นปล่อย n อยู่แล้วคุณเป็นตัวรับที่เป็นแบบ b/g (คือเห็นแต่ b หรือ g เท่านั้น) แบบ n ก็จะใช้ไม่ได้ครับ

– ความจุความจำของตัวเครื่อง Smartphoneหรือ tablet เองมีขนาดเท่าไหร่ หน่วยเป็น กิ๊ก : แนะนำว่ามันต้องเป็น 16 กิ๊กเป็นอย่างต่ำน่ะครับ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะว่า กิ๊กเยอะมันก็ดีกว่าอยู่แล้วจริงเหรอ่ปาวล่ะครับ (เก็บภาพเก็บ App อะไรได้มากกว่ายังไงล่ะครับ แหม อย่าคิดไปไกลซิ…)

– RAM ? แรมของเครื่อง Smartphone หรือ tablet : เจ้าแรมตัวนี้ มันอาจจะเรียกว่า System Memory ครับ แต่่วา เรียกกันว่า Ram ของเครื่องทุกคนก็เข้าใจตรงกันหมด ให้ดูครับว่า มันเป็นเท่าไหร่ ถ้าหากว่า Android มันเป็นเวอร์ชั่นเก่าหน่อยก็อาจจะใช้แรมที่ต่ำลงไปได้ ไม่ว่าจะเป็น 512 เม็กกะไบท์ (แนะนำว่าเหมาะสำหรับ Android version 2.3) แต่ว่าถ้าหากว่ามันเป็น Android version update มากๆ 1 กิ๊กก็ได้ก็จะดีกว่าน่ะครับ (หนึ่งกิ๊กของแรมก็เป็นสองเท่ากับ 512 เม็กของแรมครับผม)  ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูว่ามันไหลลื่นตอนใช้งานแค่ไหน แล้วการเพิ่มแรม เป็นสิ่งที่กระทำเองไม่ได้ครับ (แล้วก็ไม่รู้ว่ามีคนทำให้ได้หรือเปล่าด้วย)

– Smartphone หรือ Tablet มี GPS มีหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าคุณเป็นคนเดินทางแล้วอยากจะบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนใน FourSquare หรือว่าอยากใช้ Google Maps  แนะนำว่าก็ต้องมี จีพีเอส ที่เป็นอุปกรณ์เล็กๆที่ฝังไว้ในตัวเครื่องเพื่อเป็นการทำให้เครื่องรู้ว่า ตอนนี้ อยู่ ณ พิกัดไหนในพื้นโลก ซึ่ง function นี้สำหรับ tablet เพื่อเอาไว้กองอยู่กับบ้านอาจจะไม่จำเป็นมากนัก หรือว่าถ้าหากว่าคุณไม่ได้จะเอาไว้นำทางหรือว่าบอกพิกัด หรือว่า check-in อะไรแล้วล่ะก็ GPS อาจจะเป็น function เกินของอุปกรณ์ก็ได้ อย่างว่าล่ะครับ ถ้าหากว่าไม่ได้จำเป็นก็แล้วมันมีก็แปลว่า มันเป็นส่วนเกินที่คุณจ่ายไปแล้วเท่านั้นเองครับผม

เอาเป็นว่าสำหรับ Smart Phone หรือว่า Tablet ที่เป็น Andriod ถ้าหากว่าคุณไม่ได้เลือก Brand มากนัก มันก็จะมีเลือกให้คุณมากเอาการครับ ยังไงอ่าน Spec. และเข้าใจมันเสียหน่อยก็จะทำให้คุ้มค่าเงินที่คุณจ่ายเงินไปได้อีกเปราะหนึ่งครับผม ถ้าหากว่ามีคำถามอื่นๆหรือสงสัยไม่ต้องถามผมก็ได้ครับ ให้ถามพนักงานขายที่หน้าร้านเลยคนเหล่านั้นก็จะมีความรู้ตอบคุณได้อย่างแน่นอนครับ

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

  • smartphone รุ่นไหนดี
  • tablet กับ smartphone ต่างกันอย่างไร
  • โทรศัพท์ android รุ่นไหนดี
  • smart phone รุ่นไหนดี
  • smartphone samsung รุ่นไหนดี
  • tablet samsung รุ่นไหนดี
  • tablet แบบโทรได้
  • smartphone android รุ่นไหนดี
  • smartphone จอใหญ่
  • โทรศัพท์แอนดรอยด์ มีรุ่นไหนบ้าง
Submit your comment

Please enter your name

Your name is required

Please enter a valid email address

An email address is required

Please enter your message

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com