ใช้ BB ไม่ก็ใช้ iphone เพื่อหาประโยชน์จากเวลาส่วนเกินสั้นๆที่สมัยก่อนไม่สามารถทำอะไรได้

time-slug

อย่างที่เราๆท่านๆรู้กันว่า mobile device ที่เป็นรุ่นใหม่ๆ จะต้องต่อ internet เล่น facebook และใช้งาน email ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว เรียกว่าอยากจะใช้ตอนไหนเมื่อไหร่ก็ต้องทำได้ในทันที และไม่กินเวลาเพื่อที่ เปิด program มากมายเกินไปนัก (โหลดนานมากๆก็ไม่ไหวน่ะครับ) อุปกรณ์พวกนี้จะทำให้การใช้เวลาส่วนเกิน หรือ ส่วนตัวผมจะเรียกว่าเป็น time slug โดนใช้ไปในการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งได้ และ ทำให้เกิดความคุ้มค่าของเวลา

concept ของ Time Slug หรือเวลาส่วนเกินที่ผมว่านี้ เป็นแนวคิดส่วนตัวของผมเอง ซึ่งผมก็ขออธิบายเอาไว้ให้ฟังสักหน่อย เพื่อที่จะเข้าใจว่าผมกำลังหมายถึงอะไรก็แล้วกันน่ะครับ ?

Time Slug หรือ เวลาส่วนเกินนั้นก็คือ เวลาช่วงสั้นๆที่คุณไม่ได้ใช้มันเพื่อทำอะไรให้เกิดคุณค่าได้เลยอันเนื่องมาจากเวลานั้นสั้นเกินไป หรือ อยู่ในสภาวการณ์ หรือ สถานที่ที่ไม่เหมาะสมที่จะกระทำการอะไรได้เลย ฟังแบบนี้อาจจะไม่ get ภาพว่า มันเป็นยังไง ผมเล่าเป็นตัวอย่างก็ เช่น เวลาที่คุณกำลังรอคนเพื่อเข้าห้องน้ำ เวลาที่คุณต่อคิวเพื่อซื้อตั๋วหนัง เวลาที่คุณกำลังเดินเพื่อเข้าบ้าน หรือแม้กระทั่งเวลาที่คุณกำลังนั่งถ่ายอยู่ในห้องน้ำ เป้นต้น

สังเกตได้ว่า เวลาพวกนี้ ถ้าหากว่าด้วยเครื่องมือเก่าๆ เราสามารถที่จะควักหนังสือเล่มเล็กๆออกมาได้ แต่จะใช้ได้กับสถานการณ์ที่ต้องเป็นเวลามากกว่า 1 นาที (โดยประมาณการอ่านถึงจะเกิดขึ้นได้อย่างจริงจัง หรือรับรู้เนื้อความได้เพิ่มเติม หรืออ่านผ่านไปอีกสักหน่อยก็ยังดี) แต่แท้ที่จริงแล้ว เวลา time slug ที่เป็นก้อนใหญ่แบบนี้ก็ไม่ได้มีเยอะมากตลอดทั้งวัน แต่ เวลาส่วนเกินที่เล้กกว่านั้น (micro time slug) จะมีอยู่ทั่ววันอย่างไม่น่าเชื่อ (ถ้าหากว่าคุณสังเกตดีๆน่ะครับ)

ด้วยอุปกรณ์และแนวคิดในการสื่อสารในโลกปัจจุบันทำให้เราใช้ time slug แบบเล็กระดับน้อยกว่า 30 วินาทีได้อย่างคุ้มค่ากว่าเดิมและเป็นไปได้ต่อการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งอีกต่างห่าง เรียกว่า ตอนนี้โลกเราพร้อมแล้วที่จะทำให้เวลาส่วนเกินเหล่านี้สามารถเกิดงานอย่างใดอย่างหนึ่งได้ขึ้นมานั่นเอง

Twitter กับ Time slug แบบ Micro เรื่องราวการใช้เวลาส่วนเกินได้ลงตัว

เรื่องแรกอยากจะกล่าวถึงการ update ข่าวสารจากคนที่เราสนใจ หรือ เรื่องราวที่เราสนใจผ่าน Twitter ครับเพราะมันสะท้อนการ “รับข่าวสาร” เพื่อใช้เวลากับ Micro time slug ได้อย่างเหมาะสมมากที่สุดน่ะครั บ เนื่องด้วย content ที่เป็น Blog แบบ Micro Blogging ทำให้ text ที่แต่ละเนื้อความนั้นจะต้องสื่อให้เราเข้าใจและรับรุ้ได้ด้วยการอ่านเนื้อความที่เคาะแป้นพิมพ์ไม่ถึง 140 ตัวอักษรครับ ทำให้เรารับรู้เรื่องราวจากคนที่เราติดตามได้ในเวลาที่น้อยมากๆ เราไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด เราแค่รับรู้มัน แต่ถ้าหากว่าเราสนใจเรื่องไหนมันจริงๆ ก็ค่อยกลับมาอ่านอีกครั้งเมื่อเรามีเวลาเป็น time ก้อนโตก็ย่อมได้น่ะครับ โดยการทำให้มันเป็น favorite แล้วก็กลับมาได้ในภายหลัง

RSS FEED กับ Time Slug ขนาดกลาง อ่านแต่หัวเรื่องก่อนแล้วอ่านเรื่องทั้งหมดที่สนใจภายหลัง

เวลาอันน้อยนิดระดับที่มากกว่า 1 นาที เราสามารถที่จะโหลด header ของ Feed จาก Blog เรื่องที่เราได้ทำการสมัครเอาไว้แล้ว มาอ่านๆคร่าวๆก่อน แล้วก็คัดกรองเรื่องที่เราไม่สนใจออกไปจากสารระบบ และถ้าหากว่ามีเรื่องราวที่เราอยากจะรู้อ่านต่อเพิ่มเติมเหมือนกับว่ามันน่าสนใจดี เราก็จัดการใส่ดาวให้มันซะ เพื่อให้ตัวเองกลับมาดูได้ในภายหลังน่ะครับ (เมื่อมี time เวลาที่เป็นก้อนโตน่ะครับ)

Update ข่าวสารจะเพื่อนฝูงผ่าน Facebook

แน่นอนว่าถ้าหากว่าผมไม่พูดถึง facebook ก็คงไม่ครบองค์ประกอบในการใช้ time slug เพื่อติดตามเรื่องราวของเพื่อนๆกันน่ะครับ ผมก็เป็นคนใช้ time slug ไปกับเรื่อง update content ที่สร้างจากเพื่อนๆใน Facebook มากกว่าเรื่องอื่นๆครับ เพราะผมเองก็คิดว่า เวลาส่วนนี้ (เช่นนั่งอึ) คุณไม่ได้มองขอบประตู เอาเวลาไป comment เพื่อนๆให้เค้าได้มี connection กับเราไว้มันก็มีประโยชน์กว่ามหาศาลอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้อยู่แล้วน่ะครับ (หรือว่าไม่จริง หรือคุณคิดว่ามองขอบประตูแล้วนั่งคิดอะไรเหม่อไปเรื่อยคุ้มกว่าก็แล้วแต่น่ะครับอันนี้ไม่ได้บังคับ)

สั่งงานทันทีเมื่อรับรู้ผ่าน email หรือ SMS

เนื่องจากผมเป็นคนใช้ iPhone (3GS) แล้วเมื่องานใดๆที่ผมต้องบอกต่อกับคนที่เกี่ยวข้องผมจะส่ง email สั้นๆไปหาเค้าคนนั้นทันที แม้ว่า เค้าจะได้รับหรือได้อ่านเมื่อผ่านไปแล้วหนึ่งวันแต่ว่าผมก็ไม่ได้ลืมที่จะบอกเค้าแน่นอน เพราะ ถ้าหากว่าลองคิดว่า ถ้าเนื้อหาที่จะสั่งงานหรือบอกต่อเรื่องราวนั้นๆมันสั้นมากๆ คุณพิมพ์เป็น email ไปเลย มันจะดีกว่า การที่คุณพิมพ์ note เรื่องเพื่อเป็นการกันลืมแล้วบอกต่อกับคนที่เกี่ยวข้องกับคุณอีกครั้ง (มันก็กินเวลาเท่ากันแล้วใช่มั้ยล่ะครับนั่น?) นั้นแปลว่า ถ้าหากว่าคุณคิดว่า เวลาที่คุณจะ note และเวลาที่คุณพิมพ์งานเพื่อสั่งงานไปเลยมันจะเท่ากันอยู่แล้ว ก็เลือกที่จะพิมพ์สั่งงานผ่าน email ไปก็จะดีกว่าน่ะครับ คุณไม่ลืมที่จะสั่ง (เพราะสั่งไปแล้ว) และ no action required ต่อเนื่องสำหรับตัวคุณน่ะครับ แต่ ! อย่างไรก็ดี แนะนำว่า คุณต้องเข้าไปดู sent email อีกครั้งเพื่อที่จะติดตามงานหรือ Follow up เรื่องราวได้อีกครั้งเมื่อมีเวลาก้อนโตในที่ทำงาน (ไม่ใช่ที่บ้านน่ะครับงานก็ทำที่ทำงานจริงมั้ยล่ะครับ อิอิ ..)

อย่าเพิ่งแปลกใจว่า แล้วคุยกัน มันจะไม่ดีกว่าหรือ ? แน่นอนน่ะครับ คุณต้องคิดเอาเองก่อนน่ะครับว่า การสั่งงานนั้นเป็นแบบ one way หรือไม่ถ้าหากว่าเป็น one way และลูกน้องหรือคนร่วมงานคุณมีความรับผิดชอบเพียงพอ การสั่งงาน one way จะเป็นเรื่องที่กระทำได้ แต่ถ้าหากว่าเค้ามีข้อสงสัยใดๆ เค้าก็ต้องโทรกลับมาหาเพื่อทำการ confirm ความเข้าใจจากเนื้อความสั้นๆที่คุณ email หรือ SMS บอกไปน่ะครับ  การใช้ โทรศัพท์นั้นเป็นการเสียเวลากว่ามาก ถ้าหากว่าคุณสั่งงานด้วย email หรือ SMS สั้นๆไปได้น่ะครับ เพราะแค่กดโทรออกแล้วรอ … รอ … แล้วก็รอ .. และมีความเสี่ยงว่าจะไม่ได้รับสายขึ้นมาก็ ทำให้กินเวลาไปมากต่อมาก อย่างไม่ได้เกิดประโยชน์ และ task นั้นๆก็ไม่จบอีกต่างหาก ก็ลองคิดดูเองแล้วกันน่ะครับ ว่าจะโทรไป .. หรือว่า email ไป น่ะครับ

ข้อสำคัญอีกอย่างคุณต้องรู้พฤติกรรมของ user หรือลูกน้อง หรือ เพื่อนร่วมงานของคุณว่า เค้าเหล่านั้นรับ email และ SMS ของคุณและอ่านจริงทุกครั้ง ไม่มีการตกหล่นแต่อย่างใด เรื่องนี้ถ้าหากว่าจะทำให้ได้เหมือนกับที่ผมบอกก็ต้องเตี้ยมกันเอาไว้ หรือไม่ก็สอนพฤติกรรที่เหมาะสมเพื่อที่จะรับ SMS และ email คำสั่งหรือว่าการติดต่อจากเราได้อย่าง มั่นใจได้ว่าไม่หลุด เพราะว่าไม่ได้อ่าน หรือว่าไม่ได้ใส่ใจกับ SMS หรือ email ครับผม

โดยรวมแล้วไม่ว่า การใช้เวลาแบบ micro time slug หรือเวลา time slug ส่วนเกินขนาดปกติ เพื่อทำอะไรสักอยางผ่านมือถือนั้น คุณไม่ใช้ BB ก็ใช้เป็น iphone หรือ smartphone ใดๆที่คุณใช้งานได้อย่างคล่องตัวมากๆ ในการหยิบจับและใช้งานมันได้ในทันที  (เรียกว่าไม่เกิน 5 วินาทีเพื่อที่จะเอาออกจากกระเป๋าแล้วเริ่มพิมพ์อะไรสักอย่าง หรือ update เนื้อหาอะไรสักอย่าง) ก็จะเป็นการเพิ่ม productivity (เพื่อทำงานหรือว่าเพื่อ social networking ) ได้เป็นอย่างดี และ ยังไงก็คุ้มค่ากว่าการเหม่อมองฟ้าหรือเดินไปเดินมาโดยไม่ได้ใช้สมองเพื่อกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งน่ะครับ หรือว่าไม่จริง comment กันได้น่ะครับ ^^

Submit your comment

Please enter your name

Your name is required

Please enter a valid email address

An email address is required

Please enter your message

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com