
เราสามารถแบ่งประเภทความคาดหวังของผลของการฉีดวัคซีนได้ตามลักษณะการอยู่อาศัยได้แตกต่างกันออกไป และ เหตุผลเบืิ้องหลังนั้นจะมีแรงจูงใจแตกต่างกันไปโดยเราอาจจะแบ่งกลุ่มคนออกมาเป็นพวกๆต่อไปนี้
ผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยงต่อภาวะการรุนแรงของโรค : กลุ่มคนเหล่านี้ต้องคาดหวังความเร็วเอาไว้ก่อน โดยความเร็วที่ว่านี้ คือ ความเร็วของการติดเชื้่อแล้วโคม่ารุนแรง ซึ่งวัคซีนครบโดสทุกยี่ห้อทุกประเภทนั้นหวังผลเหล่านี้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น SNV หรือ AZ ที่มีการระดมฉีดแล้วในไทย โดย SNV จะเน้นการฉีดให้ครบโดสทั้งสองเข็ม และ AZ สามารถคาดหวังผลนี้ได้ตั้งแต่เข็มแรกผ่านไป 2-3 สัปดาห์เท่านั้น ก็คาดหวังผลเหล่านี้ได้แล้ว
ผู้ที่เป็นกลุ่มคนทั่วไปธรรมดาที่อาศัยกับเด็กที่จะไม่ได้มีโอกาสได้ฉีดวัคซีนในระยะสั้นนี้ : คนกลุ่มนี้จะมองเรื่องการติดเชื้อเข้ามาบ้าน เพราะ ถ้าหากว่าติดเข้าบ้านแล้ว จะทำให้เด็กติดไปด้วยได้มาก แม้ว่าเด็กนั้นจะไม่ผลจากการติดเชื้อมากนัก แต่เราไม่สามารถประเมินได้ว่า ผลระยะยาวที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้นเป็นอย่างไรกันแน่ ซึ่งแนวคิดนี้มักจะเกิดจากผู้ปกครองที่อาศัยแบบครอบครัวเดี่ยวกับเด็กอายุตั้งแต่อนุบาลยันมัธยมปลาย ทั้ง SNV และ AZ ไม่ได้มีผลต่อการป้องกันการติดโควิดได้เท่าใดนัก แต่คิดแล้วมันอาจจะไม่เพาะเพิ่มเชื้อให้มีอาการหนักหรือแสดงอาการได้ (ซึ่งแม้แต่จริงๆแล้วคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยงก็โอกาสที่ไม่แสดงอาการก็มากเป็นปกติอยู่แล้วที่ 80%+ เป็้นปกติ) ทำให้ติดมาแล้วจะไม่รู้อยู่ดี และเด็กเมื่อติดแล้วก็มีโอกาสไม่แสดงอาการเลยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้หากคาดหวังผลการป้องกันการติดระหว่างกันนั้น อาจจะต้องคาดหวังผลจากการฉีดจากคนหมู่มากเท่านั้นเป็นสำคัญ คือ เรียกได้ว่า คนที่เราทานข้าวด้วย คนที่เราต้องใกล้ชิดด้วย คนที่เราทำงานด้วย คนเหล่านั้นทั้งหมดควรฉีดวัคซีนแล้วมีภูมิแล้วเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนอะไรก็ตาม เพราะ การเพาะเชื้่อในปอดนั้นแค่เพียงมีวัคซีนแล้วก็ป้องกันอาการรุนแรงแล้วเหมือนกับไวรัสหวัดปกติ โอกาสแพร่ก็น้อยลง และคนที่ได้รับเชื้อก็ได้รับวัคซีนและมีภูมิขึ้นแล้วก็อาการก็น้อยเช่นเดียวกัน เป็นการลดโอกาสทั้งฝ่ายแพร่ และ ฝ่ายรับได้นั่นเอง
ทั้งนี้การฉีดวัคซีนสำหรับกลุ่มนี้ แนะนำให้ฉีดด้วย AZ ให้เร็วไว้ก่อนเพราะ มันต้องมีเข็มแรก ไม่ว่าจะกรณีใดๆ แล้วถ้าหากว่าอยากจะฉีดเข็มสอง เราก็น่าจะเลือกได้เองว่าจะใช้ของรัฐต่อหรือไม่ก็ได้ หากว่าคุณยินดีเสียเงิน ก็เลือกไปใช้ Platform ประเภท mRNA อีกครั้งได้ โดยไม่เป็นปัญหาอะไร (จากข้อมูลตอนนี้) และภูมิก็ขึ้นได้ดี พร้อมยังรองรับการป้องกันการติดได้จากไวรัสหลากพันธ์ได้ดีเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี AZ สองเข็มนั้นได้มีการพิสูจน์แล้วในประเทศอังกฤษว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้กว่า 80% ย้ำว่าเป็นความสามารถในการกันติด! ไม่ใช่กันตายหรือกันแสดงอาการแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่เป็นผู้ปกครองแล้วอยากจะต้องกันตนเองเป็นพาหะให้กับเด็กๆที่บ้าน การได้รับสองเข็มแบบ AZ + AZ หรือ AZ + mRNA (ใดๆก็ได้) ก็จะกันติดได้ราวๆนี้เช่นเดียวกัน
ทั้งหมดนี้เน้นความเร็วเป็นสำคัญ ! ไม่ใช่มาเดาเอาเลือกเยอะหรือคิดมาก เพราะ สุดท้ายหากว่าทุกคนไม่คิดจะฉีดการปรับเปลี่ยนกลายพันธ์มันจะเกิดการสุ่มค่าของรหัสพันธุกรรมไวรัสของมันเองแและมันก็จะสามารถแก้โจทย์ที่เป็นวัคซีนใดๆเพื่อให้มันอยู่รอดได้ต่อไป แปลอีกนัยหนึ่งวัคซีนจะไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆได้เลยหากอัตราการฉีดเทียบกับความสามารถในการสุ่มค่ากลายพันธ์นั้นเทียบกันไม่ติด และ นี่เป็นปัญหาที่สำคัญมากกว่า เพราะ คนปกติจะไม่เลือกทำอะไรเลย และนั่นก็แปลว่าเขาได้เลือกแล้วว่าจะไม่ฉีดวัคซีน ! การที่จะเขาจะได้รับวัคซีนนั้นเขาต้องลงทะเบียนขนขวายเดินทางและออกแรงมากมายเพื่อเอาตัวเองไปโดนเข็มจิ้ม การอยู่นิ่งๆนั้นสะดวกกว่ามาก ทั้งนิ่งแบบไม่ใส่ใจใดๆ และการนิ่งโดยการนั่งอ่านข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนและไวรัส ก็ถือเป็นการนิ่งเฉยเช่นเดียวกัน มันไม่ได้ทำให้ตัวเขาเองนั้นเข้าใกล้เข็มได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันเป็นการกระทำที่ถือว่าเป็นค่า Default value หรือการกระทำที่เป็นปริยาย และนี่เองทำให้เรื่องมันไม่จบลงง่ายๆในที่สุด มันคือปัญหาที่เจอในขณะนี้ อัตราการผลิตวัคซีนนั้นถูกกุมอำนาจให้ผลิตในอัตราต่ำกว่าการระดมฉีดเพื่อสู้กับอัตราการสุ่มค่ากลายพันธ์ของไวรัส การเข้าถึงวัคซีนเป็นเรื่องยากเกินไปในหลายประเทศและรวมถึงไทยด้วยที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนเหล่านั้น (เข้ายากกว่าเดินไป 7-11 หาไอติมกินเยอะมาก) ดูๆแล้วหากอัตราผลิตยังคงเป็นแบบรวมศูนย์แบบมองทั้งโลก ก็ไม่มีทางหรอกที่จะทำให้โลกนี้กำจัดไวรัสที่ระบาดนี้อยู่ได้
ดังนั้นแล้ว อย่าได้หวังเยอะ สิ่งที่คุณคาดหวังได้คือ “การได้รับวัคซีนสักตัวหนึ่งเพื่อกันตายและกันอาการรุนแรงโคม่า” เป็นสำคัญและสิ่งนี้คือสิ่งน้อยที่สุดที่คุณจะคาดหวังได้จากวัคซีนทุกวันได้ไม่ยาก อย่าคิดหวังเลยว่า จะเอาวัคซีนกันติดโควิด หรือ คิดว่าจะเอารอวัคซีนตัวที่ดีที่สุด เพราะ มันไม่มีวัคซีนแบบนั้นหากไวรัสยังสุ่มค่าเปลี่ยนพัฒนาตัวไปเรื่อยๆอย่างนี้นั่นเอง