ทำไมไม่ได้เงินจาก blogging สักกะทีน้า..?

อย่างที่ใครหลายคนพอจะระแคะระคายว่าการ blogging มันจะสามารถสร้าง income มาได้ไม่มากก็น้อยแต่รู้เหรอป่าวครับว่าร้อยละ98 ไม่ได้ income อะไรออกมาจาก blogging สักสตางค์แดงเดียว แค่สตางค์เดียวก็ไม่ได้นะครับ ผมก็นั่งคิดว่าทำไมน้า คนเราถึงคิดอย่างงี้เพื่อที่จะทำแบบนั้น การให้ข้อมูลฟรีๆเป็นเรื่องที่ดีและผมก็อยากได้ฟรีด้วยเหมือนกัน หรือในทางตรงกันข้ามการให้ข้อมูลพิมพ์บอกต่อคนอื่นๆ มันเป็นวิทยาทาน ทางความคิดความอ่าน ทำให้สุดท้ายแล้วหากว่าเราไมได้ "เงิน" จากมันเลยแม้ก็ตามมันก็จะทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ช่วยเหลือคนอื่นยังไงอย่างงั้นน่ะหละครับ นั่นหละครับเป้าหมายทางความคิดเพื่อกำหนด พฤติกรรมของคนแต่ละคนมันไม่เหมือนกันนี่ครับว่าเหรอป่าวล่ะ หากวิเคราะห์กันเป็นประเด็นๆว่า ทำไมไม่ได้อยากได้เงินสักสตางค์แดงเดียวกับการ blogging ก็เดาเอาไว้ได้ต่างๆนานาด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้น่ะครับ – เพราะว่าไม่คิดว่ามันเป็น business ไม่ได้กะหาเงินอะไรกับมันอยู่แล้วนิ.. การพิมพ์เพื่อเล่าเรื่องที่เรารู้ดีหรือว่าเราศึกษามาเป็นอย่างดีเหมือนกับว่าเราไม่ได้ลงทุนอะไรแม้แต่นิดเพราะเรารู้อยู่แล้ว เราทำเป็นอยู่แล้วถึงแม้ว่าเราจะได้ไปอ่านศึกษาค้นคว้าทดสอบทอลองมามากมายแค่ไหนก็ตามมันก็รู้สึกได้เหมือนกับว่ามันไม่ได้มีต้นทุน (ทั้งๆที่มันมีน่ะครับก็คือเวลาที่คุณควรจะต้องไปนั่งเล่นเที่ยวเล่นหรือว่าอ่านอะไรเพื่อความเพลิดเพลิน แต่ว่าถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ศึกษาเรื่องใดๆแล้วรู้สึกเพลิดเพลินนั้นน่ะหละทำให้คุณรู้สึกได้ว่ามันไม่ได้มีต้นทุนแม้แต่น้อยได้จริงๆ)การคิดแบบนี้ทำให้ไม่คิดว่ามันจะทำเป็นธุรกิจอะไรออกมาได้ ไม่อยากจะได้อะไรจากมัน ไม่จำเป็นต้องได้ออกมาเป็นตัวเงินอะไร ทำให้สะท้อนความคิดออกมาว่า "เราไม่ได้อยากได้ออกผลประโยชน์ในรูปตัวเงินแต่อย่างใด" – เพราะว่าคิดว่ามันเป็นแค่งานอดิเรก…

Blogging Affiliate : หลากหลายวิธีหาเงินจากการ Blog ที่มีอยู่จริงบนโลกนี้

หลายคน blog โดยมีเป้าหมายแค่ว่า "ขอให้ได้บอกคนอื่น ก็เพียงพอแล้ว" และนั่นจริงๆแล้วการเผยแพร่ความรู้แบบ Free หรือที่เรียกว่า วิทยาทาน (เหมือนกะว่าคนอ่านเป็นขอทานอย่างงั้นล่ะ แต่ว่าไม่ช่ายน่ะครับ) นั้นมันก็ดีเอามากๆแล้วน่ะครับ เพราะคนจะเริ่มรู้จักคุณไม่มากก็น้อย คนจะเริ่มรู้ว่าคุณมีความชำนาญทางด้านไหน หากว่าคุณเป็นคนที่เก่งเกี่ยวกับ การ blogging วันๆคุณก็พูดแต่เรื่อง blogging ก็ทำให้คนที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นหรือว่าคนที่สนใจเข้ามาสนใจและเริ่มต้นทำการ blogging ต่อๆกันได้ หรือว่าถ้าเป็นเว็ปผมนี่ก็ไม่ได้มีอะไรมากแค่อยากจะให้คนใช้คอมพิวเตอร์ หรือ internet ได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม มีประสิทธิภาพการใช้งานได้ดีกว่าเดิม แล้วก็ไม่ต้องงกๆอยู่กะหน้าคอมมากเกินไปนัก (แต่ว่ามันก็ขัดกะที่ผมเป็นน่ะครับเพราะว่าตัวผมก็งกๆอยู่หน้าคอมวันยันค่ำน่ะหละครับ เฮอะๆ ก็นะคนมันใจรักกันนี่เนาะ จะให้ทำยังไงได้ ) แล้วก็ผนวกกับการที่ว่าผมเป็นคนชอบ Tutor คนอื่นๆ ..(อาการนี้เป็นมาตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว ผมน่ะครับเป็นพวกที่ว่า ต้องกลับอ่านหนังสือมาก่อนล่วงหน้าคนอื่นเค้าแล้วก็เพื่อที่จะสอนคนอื่นให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น เพื่อนๆเค้าก็จะเรียกผมเป็นจานกันหมด…

ตรวจจับการ copy feed หรือเนื้อความของเราผ่าน CopyGator.com ครับ

สำหรับคนขี้กลัว กลัว่ว่า content ที่พิมพ์ๆมาจะมีคน copy แล้วก็เอาไป post ปะไว้ที่อื่นๆ แบบไม่ได้ส่ง link กลับมาหาเราเลย แถมยังเอาไปทำ ads ใส่ไว้อีกตะหากมันก็น่าเจ็บใจอยู่น่ะครับ เพราะงั้นเพื่อเป็นการกันเอาไว้ดีกว่าแก้ให้ลอง สมัครใช้บริการของ CopyGator.com น่าจะดีน่ะครับ เพราะมันจะดูแลให้ว่าถ้าหากว่ามันเจอ content ที่ผ่านระบบ feed auto ไปแสดงที่อื่นๆ หรือที่หน้า blog อื่นๆแล้วล่ะก็มันจะทำการส่งสรุปเป็น email มาหาเราเป็นรายวันหรือรายเดือน หรือสัปดาห์ก็แล้วแต่ว่าเราจะตั้งเอาไว้เท่าไหร่น่ะคับ ลองใช้ดูแล้วกันนะครับ

มาใช้ Picasa เป็นที่เก็บภาพเอาไว้โชว์เพื่อนๆจะดีกว่ามั้ย?

ผมเห็นน้องผม ผมเห็นเพื่อนบางคนของผม upload ภาพเพื่อเอาไว้โชว์กันโดย multiply.com แต่ว่าผมว่ามันดูไม่สะดวกเท่าไหร่นัก( แต่ว่าผมก็พูดไม่ได้เต็มปากนักหรอกว่ามันไม่สะดวกเพราะว่าผมก็ไม่ได้ใช้งานมันอย่างจริงๆสักที ) แต่ว่าผมรู้อยู่อย่างหนึ่งน่ะครับ ว่า ตอนนี้ผมใช้ Picasa แล้วมันสะดวกมากเลยอยากจะแนะนำอย่างเป็นขั้นเป็นตอนสักหน่อยเพื่อ ให้คนอื่นที่ไม่เคยเห็นไมเคยรู้จักได้ใช้งานกันได้จริงๆจังๆสักกะที ทำไมต้อง Picasa ? ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพราะว่าผมรู้ว่า Picasa เป็นโปรแกรม หนึ่งที่โดนซ้ำไปโดย Google Inc ด้วยราคาระดับหนึ่ง ซึ่งผมก็เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกๆแล้วว่า Google ซื้อไป แล้วก็ซื้อไปนานมากแล้วด้วย ผมว่า Google เองก็คงเห็นว่ามันดียังไงเหมือนกับที่ผมเห็นอยู่ ณ เวลานั้นเหมือนกัน เพราะว่านจะทำการ scan ภาพทั้งหมดที่เราจัดเก็บสะเปะสะปะไม่ระเบียบทำให้มันมีระเบียบมากขึ้น แล้วเอามาแสดงที่หน้าจอในโปรแกรมออกมาได้อย่างสวยงามแล้วเคลื่อนไหวพริ้วไหวดั่งสายน้ำ ตั้งแต่ version…

update wordpess เป็น version 2.7 แล้วดูดีกว่าเดิมเยอะเลย

ปกติผมไม่ค่อยจะได้ update wordpress สักเท่าไหร่นักหรอกเพราะว่าแค่รู้สึกเอาเองว่าปรับไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีกว่าเดิมหรือว่าแตกต่างอะไรกว่าเดิมมากนัก แต่ว่าำำสำหรับ WordPress version 2.7 พอผมทำการ update แล้วระบบ backoffice ของ WordPress ให้อารมณ์และความแตกต่างจากเดิมมากโขอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Dashboard ที่ดูดีกว่าเดิมเอามากๆ แล้วก็มี ช่องเพิ่มที่หน้าแรก คือ QuickPress มันจะเหมือนกะช่องที่ให้เราพิมพ์อะไรเหมือนกับการ Blog ออกไปแบบสั้นๆเร็วๆ ไ่ม่คิดมาก ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่พิมพ์ content ในช่อง content พิมพ์ tag เอาไว้แล้วก็ กด “Publish” ที่หน้าแรกนี้เลย post นี้ผมก็พิมพ์จาก QuickPress…

พฤติกรรมที่ดีสำหรับการเขียน และจัดการ blog ที่ผมไม่ได้ทำแฮะ..(รู้ตัวน่ะครับว่าไม่ขยันนัก)

ผมเขียนบล็อกก็แค่เพื่อที่จะบันทึกเรื่องที่ตนเองเจอะเจอแล้วเห็นว่า internet หรือว่า computer user อย่างเราๆท่านๆ อ่านแล้วได้ประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ freeware ที่ผมก็สนับสนุนให้คนใช้งาน หรือว่าจะเป็นเรื่องราวของการใช้ web application ต่างๆที่เดี๋ยวนี้มันมีให้เราใช้งานได้เยอะแยะทั่วไปครับ นอกจากนั้นก็จะเป็นพวกเรื่องที่คิดเพ้อไปเอง อันได้มาจากการสังเกต อ่านหรือว่านั่งคิดเพ้อเจ้อเอาเองอีกส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นการฝึกสมองผมไปวันๆแล้ว มันยังเป็นการพัฒนาทักษะในการสื่อสารผ่านการเขียนได้อีกทางหนึ่งอีกด้วยครับ แต่… ผมไม่ได้ทำอะไรให้มันสมบูรณ์ดีเลิศประเสริฐศรีเท่าไหร่นัก เพราะผมรู้ตัวว่าการที่ผมเขียน blog นี้ยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะที่ผมไม่ได้ทำ พฤติกรรมที่พึงกระทำแต่ก็ไม่กระทำ อันเนื่องมาจากความขี้เกียจส่วนตนน่ะครับ ..เช่น พิมพ์เสร็จแล้วต้องอ่านทวนเพื่อหาจุดพิมพ์ผิด : ผมบอกตรงๆว่าผมไม่ได้ทำหรอกครับอ่านทวนเนี่ยะ ผมก็รู้อยู่เต็มอกว่า มันต้องมีพิมพ์ผิดกันมั่งล่ะ แต่ว่าอย่างว่าและครับผมไม่ได้ขยันขนาดนั่นสักกะหน่อย แต่บอกอะไรให้อย่างนะครับ หากว่าท่านต้องการทำให้ blog ของท่านเป็นที่น่าเชื่อถือ ดูดี มีชาติตระกูลแล้วล่ะก็.. การพิมพ์ผิด เป็นเรื่องที่รับไม่ค่อยจะได้สักเท่าไหร่นักครับ…

update wordpress ไปเป็น version 2.6 แล้วครับ

ไม่รู้ว่าทำไม wordpress ต้องมา update version กันบ่อยๆด้วย แต่สำหรับตัว 2.5 นั้นมัน work กับ Windows Live writer ไม่ได้จริงๆ เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่ใช้งานเหมือนกับผมล่ะก็ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง update version ครับ การ Update นั้นผมทำครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว ไม่ต้องอ่านคู่มือแล้วครับ เพราะว่าเคยทำมาแล้วหนหนึ่งปรากฏว่ามันง่ายเอามากๆซะด้วยซิครับ สิ่งที่ผมทำทำเป็นขั้นๆมั่วๆได้ดังนี้ครับ – โหลด wordpress 2.6 แล้ว unzip ไว้ที่ desktop ที่คอมตัวเองครับ – เข้า FTP program (Filezilla) …

Statpress แสดงข้อมูลสถิติคนเข้า blog แบบ real-time

ถ้านับตั้งแต่เปิด rackmanagerpro.com มาได้ก็หลายเดือนแล้ว บอกตรงๆว่าผมยังไม่ได้ทำการเก็บข้อมูลสถิติแต่อย่างใดครับ เพราะผมรู้ดีว่าถ้าหากว่าเพิ่งเปิดเว็ป blog ใหม่ได้ไม่นานมากแล้วก็ยังไม่ทำการ promote อะไรอย่างจริงจังคนเข้าก็ยังไม่เยอะหรอก แต่วันนี้ผมเพิ่งจะเริ่มลง plug-in ของ wordpress ที่ชื่อว่า “Statpress” เพื่อเอาไว้ติดตามการเข้ามาของ visitor และเพื่อดูว่าวันๆหนึ่งมีคนเข้ามาดูหรือเปิดหน้าเว็ปจาก rackmanagerpro.com มากน้อยแค่ไหน แล้วเค้าเหล่านั้นหลงเข้ามาแล้วดูอะไรกันครับ จาก Overview ที่แสดงอยู่นี้ มันสามารถบอกได้ว่า Visitors เข้ามากี่คน แล้ว Pageviews ที่มีคนเปิดมาทั้งหมดมีการเปิดกี่ครั้ง และที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็คือว่า มี “ แมงมุม” มาคลานดูเว็ปเราทั้งหมดกี่ตัวครับ การแสดงผลแบบข้อมูลรายวันนี้มีข้อดีทีว่า เราสามารถดูกราฟเทียบกับระหว่างจำนวน visitors , Pageviews…

แนะนำ Windows Live Writer ในการ update Blog (สะดวกกว่าเดิมเย้อะเลย)

จริงๆผมก็ไม่เคยเปิดโปรแกรมมันออกมาหรอกนะครับเจ้า Windows Live Writer  ตอนแรกมันจะมากับตอนที่เราโหลด Window Live Messenger แต่ว่าก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมันหรอก มันให้โหลด ก็โหลดเท่านั้นเอง ไม่ยักกะรู้ว่า msn ก็ทำอะไรออกมาให้คนอื่นเค้าใช้งานได้ฟรีๆเหมือนกันครับ ปกติแล้วหากว่าเราจะทำการ update blog post ซักอันก็ต้องเข้าไปที่หน้า manage ผ่านทาง Firefox (web browser) แล้วก็ต้องกดๆเข้ารหัส ผ่านหน้าต่างหลายหน้ากว่าจะได้เริ่มเขียนกัน อีกอย่าง ช่องที่เขียนก็เล็กๆ เหมือนกับการ compose mail ใหม่นั่นล่ะครับ ไม่สุนทรีย์มากนัก ซึ่งถ้าถามผมว่าปกติผมทำยังไง ผมก็ไม่ได้เข้าไปเขียนที่ Backoffice ของ wordpress อะไรอยู่แล้วล่ะครับ ผมก็แค่เปิด…