สุดยอดสรุปวิธีการใช้มือถือเมื่อเราต้องไปเมืองนอก เพื่อป้องกันการเสียค่าโง่

มีสุดยอดสรุป การใช้ “มือถือไทยในต่างประเทศ” ที่ออกโดย กสทช. เพื่อเป็นการทำให้คนที่ไม่ค่อยได้เดินทางไปเมืองนอกแล้วเอามือถือไทยไปด้วยจะได้ไม่เจอปัญหา การเรียกเก็บเงินเรือนหมื่นเรือนแสนจากผู้ให้บริการมือถือมาให้ download เอาไปอ่านกันครับ
ดาวน์โหลดคู่มือเอามือถือไปเมื่องนอก ได้จากลิงค์นี้

http://www.tci.or.th/uploads/files/MobilePassport2.pdf

Mobile Passport 2

ผมต้องเล่าประสบการณ์ที่ญาติๆผมและคุณแม่ของผมเองต้องเสียเงินสามหมื่นกว่าบาทถึงสองครั้งด้วยกันก็เพราะว่าเอามือถือ iPhone ไปเมืองนอกครับ โดยแม้ว่าจะมีการศึกษาไปก่อนแล้วก็ยังผิดพลาด ก็เกิดค่าใช้จ่ายตจำนวนมากขนาดนี้เกิดขึ้นได้ครับ

โดนไป 20,000++ บาทสำหรับค่าโง่งวดแรก :

ครั้งแรกเป็นยุคที่เพิ่งจะมีเครื่อง iPhone3G ใช้งานกันเป็นครั้งแรกในครอบครัวและไม่ได้คิดอะไรมากเมื่อจะต้องเอาโทรศัพท์ไปเมืองนอก ก็คิดว่ามันก็น่าจะเหมือนกับโทรศัพท์อื่นๆ คือ ยกไปเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ต้องมาคิดว่ามันจะมีการใช้ internet เรียกผ่าน data roaming ข้ามประเทศอะไรแบบนี้ แต่ว่า iPhone หรือโทรศัพท์ประเภท smartphone อื่นๆ มันไม่เหมือนกับโทรศัพท์มือถือธรรมดาแบบที่เอาไว้โทรเข้าโทรออกเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป เพราะ มันจะเรียก internet ตลอดเวลาแบบที่เราไม่รู้ตัวนั้นเอง และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไม ถึงโดนเรียกเก็บเงิน data roaming ไปกว่าสองหมื่นบาท (นี่ขนาดไม่ได้ใช้อะไรนะ ถ้าหากว่าคุณใช้งานเพื่อ upload Facebook หรือเพื่อติดต่อด้วยรูปแบบอื่นจะโดนกันไปถึงกี่บาทกันแน่?)

โดนไปอีก30,000++ บาทสำหรับค่าโง่ครั้งที่สอง:

ครั้งล่าสุดคุณแม่ของผมได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศญี่ปุ่น และได้เอา iPhone ไปเพื่อกะว่าจะดูข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะการเงินและอ่านข่าวอันเกี่ยวเนื่องกับภาวะตลาดหุ้นในประเทศ ก็เลยต้องพก smartphone ไปด้วย ก่อนไปผมก็ได้ทำการสมัคร Package Unlimited data roaming เอาไว้แล้ว แต่ปรากฏว่า มันกลับมาเงื่อนไขที่ผมและคุณแม่ไม่ทราบมาก่อนว่า “มันต้องต่อกับผู้ให้บริการเฉพาะ docomo เท่านั้นถึงจะใช้ Unlimited ได้” แต่เมื่อคุณแม่เดินทางไปที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ตั้งค่าเพื่อ Lock ค่ายสัญญาณมือถือญี่ปุ่นค่ายนี้ ทำใหเมื่อเดินทางไปที่ไหนต่อไหนมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้ว เมื่อมีการเรียกใช้งานข้อมูล internet เมื่อไหร่มันก็จะทำให้เสียเงินส่วนที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ สรุปก็คือ เสียเงินถึงสองต่อด้วยกันก็ คือ ส่วนที่ตกลงกันเป็นแบบเหมาจ่ายซึ่งก็แค่หลักพันหลายพันบาท และ ส่วนการใช้ data roaming หลักหลายหมื่นบาท เมื่อได้ bill ประจำเดือนมาก็ปรากฏว่ายอดมันมีค่าใช้จ่ายมากกว่า สามหมื่นบาทด้วยกัน เป็นการช๊อคและตัวชา เพราะ คาดไม่ถึงว่าจะต้องมาเจอกับปัญหาแบบนี้ ทั้งๆที่ รู้และต้องการจะต้องป้องกันการเปิดปัญหานี้ไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า เรื่องที่ผมว่าคุณไม่รู้แน่ๆถ้าหากว่าคุณยังไม่เคยไปเมืองนอกแล้วเอามือถือไปด้วย

ผมอยากจะ list สรุปสั้นๆไว้ตรงนี้เสียหน่อยเพื่อไม่ให้คุณตกๆเป็นเหยื่อของการเจอบิลค่า data roaming หลักหมื่นหลักแสน บาทโดยที่คุณไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันต้องมีค่าใช้จ่ายเหล่านี้ที่เกิดขึ้นเมื่อ คุณเอามือถือไทยไปต่างประเทศครับ

1. เมื่อคุณเอามือถือไทยไปต่างประเทศแล้ว คุณรับโทรศัพท์ คุณจะเสียเงินด้วยอัตราการต่อนาทีแบบโหดๆ ปกติแล้ว ถ้าหากว่าคุณรับโทรศัพท์ในประเทศไทยมันจะไม่เสียเงินแต่ นั้นไม่ใช่เมื่อคุณเอามือถือไทยไปใช้สัญญาณมือถือต่างประเทศครับ ทันทีที่คุณรับโทรศัพท์จะเสียเงินด้วย “อัตราค่ารับโทรศัพท์” ที่ถูกกว่าค่าโทรออกเล็กน้อยครับ เพราะอย่างงั้นแล้วถ้าหากว่าไม่รู้ว่าใครโทรมาก็ไม่ต้องไปรับให้เสียเวลา และ บอกคนที่ต้องการจะติดต่อเราจริงๆให้ส่ง SMS ไปบอกเราก่อนล่วงหน้าก็ได้ เพราะ เราจะได้รับโทรศัพท์นั้นขึ้นมา และมันก็ต้องเป็นเรื่องด่วนจริงๆถึงจะคุ้มค่า

2. smart phone ไม่ว่าจะเป็น แอนดรอยด์หรือ iPhone มันจะเรียกหา data ตลอดเวลา นั่นก็แปลว่า ถ้าหากว่าคุณเอา iPhone ไปเมืองนอกเมื่อไหร่ แล้วคุณไม่ได้สมัคร data roaming unlimited เอาไว้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไรกับโทรศัพท์เลยก็ตาม แค่เปิดเครื่องเอาไว้เฉยๆแบบธรรมดานี่น่ะหละ มันก็จะเรียก internet หรือใช้ ดาต้าโรมมิ่งอยู่ตลอดเวลา ผลาญเงินด้วยอัตราที่แพงมหาโหด โหลดอีเมล์ 1 เมล์มาเก็บไว้ที่เครื่องคุณเมล์ละหลายร้อยบาทได้ไม่ยาก และการโหลดทั้งหมดกระทำโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยสักนิด !

3. แม้ว่าคุณจะติดต่อกับผู้ให้บริการมือถือแล้วว่าอยากจะใช้ Data Roaming เหมาจ่ายรายวันตามที่ไดตกลงกัน “คุณต้อง LOCK กับผู้ให้บริการเฉพาะรายตามาที่ได้กำหนดเอาไว้เท่านั้น!” และนี่เป็นกรณีที่เกิดกับคุณแม่ผมว่าได้ตกลงซื้อ package เหมาจ่าย data roaming เอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ล็อคกับ ผู้ให้บริการเฉพาะรายในต่างประเทศ และนั่นทำให้คุณแม่ผมต้องโดนเรียกเก็บเงินกว่าสามหมื่นบาทไปเต็มๆ พูดง่ายๆ ก็คือ คุณต้อง Manual เลือกผู้ให้บริการทันทีที่คุณอยู่สนามบิน (แม้กระนั้นก็ดีคุณจะยังเสียเงินแถมอีกนิดหน่อยเพราะ ระหว่างนั้น มันจะเลือกผู้ให็บริการรายอื่นที่คุณไม่ได้ตกลงกันเอาไว้ว่าอยูใน package data roaming unlimit เหมาจ่ายนั่นเอง)

วิธีการที่ดีที่สุดในการนำมือถือไปเมืองนอก

กรณีที่ 1 : คุณไม่อยากจะเสี่ยงกับเรื่อง data roaming เลยวิธีการง่ายๆบ้านๆสำหรับคุณแม่คุณป้าที่ไม่อยากจะยุ่งกับเทคโนโลยีที่ผมอยากจะแนะนำก็คือ ให้ถอด SIM card จากเครื่อง Smartphone หรือ iPhone ออกแล้วก็เอาไปเสียบกับเครื่องโทรศัพท์ธรรมดาๆแทน พวกโทรศัพท์มือถือ 500 บาทถูกสุดๆเหล่านี้เป็นต้น มันจะเป็นโทรศัพท์ที่ไม่มีการเรียก data กลางอากาศโดยที่เราไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน

กรณีที่ 2 : คุณอยากจะเอา iPhone ไปแต่ว่าไม่อยากจะติดต่ออะไรกับใครอยู่แล้ว คุณก็เอา iPhone ไปก็ได้ก่อนเดินทางให้พวกว่า ยกเลิก Roaming ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการ Roaming เพื่อเอาไว้โทรหากัน และ มันก็จะครอบคลุมไปถึง data roaming ด้วย ทำให้คุณติดต่ออะไรใครไม่ได้เหมือน SIM card และเบอร์มือถือนี้ไม่มีตัวตน เมื่อคุณอยู่ต่างประเทศ (เหมือนกับหนีเจ้าหนี้อะไรแบบนั้น) แต่ถ้าหากว่าคุณอยู่โรงแรมที่มี wifi คุณก็สามารถที่จะต่อ wifi เพื่อใช้งาน internet ได้เหมือนปกติ โดยที่คุณไม่ต้องเสี่ยงกับค่า data roaming แม้แต่น้อย

แนะนำ* กรณี 3 : คุณอยากใช้ iPhone หรือ Smartphone เพื่อใช้ internet และไม่อยากจะใช้ SIM card ของประเทศนั้นๆ หรือประเทศปลายทางนั้นๆไม่มี SIM card แบบ internet วิธีการนี้ คือ วิธีการที่ ตัวผมเองใช้งานเมื่อไปเมืองนอกและรู้ว่าประเทศปลายทางที่กำลังจะเดินทางไปนั้นมี package internet data roaming แบบเหมาจ่าย เพื่อใช้งาน data roaming ได้ไม่อั้นครับ โดยประเทศที่ผมใข้งานแบบนี้ม่าแล้วก็ได้แก่ประเทศญี่ปุ่น สเปนและ ฮ่องกง (จีน) วิธีการก็คือ ให้คุณติดต่อกับ call center เพื่อบอกว่า เราจะเดินทางไปยังประเทศไหน ถามข้อมูลว่าจะเสียเงินเหมาจ่าย data roaming แบบไม่อั้นไม่จำกัดจำนวน data จะคิดอย่างไร วันละเท่าไหร่หรือว่าคิดแบบ สามวัน หรือเจ็ดวันหรือไม่ ก็เลืแอกเอาให้เหมาะกับวันหรือเวลาที่เราจะเดินทางไปยังประเทศปลายทางนั้นๆ และ ต้องถามด้วยว่า จะต้องเชื่อมต่อกับผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือท้องถิ่นเฉพาะยี่ห้อใดเป็นพิเศษเท่านั้นหรือไม่ (แน่นอนว่าเค้าจะต้องบอกมาครับ) แล้ว ต้องถามอีกด้วยว่าถ้าหากว่าเป็นเครื่องโทรศัพท์รุ่นที่คุณใช้อยู่นั้นจะตั้งค่าให้ล็อคกับสัญญาณมือถือเฉพาะค่ายจะต้องทำอย่างไร เพราะ มือถือแต่ละรุ่น จะมีการตั้งค่าที่ไม่เหมือนกัน ต้องถามและลองกดตามดู ซึ่งถ้าหากว่าคุณอยากจะใช้งาน internet เมืองนอกแบบนี้ คุณต้องเทรนตัวเองเพื่อให้ทำการตั้งค่าเหล่านี้ได้ เพราะ เมื่อไปอยู่ที่นู้นแล้ว อาจจะไม่มีคนช่วยตั้งค่าให้คุณได้ (การตั้งค่าจะต้องทำเมื่อถึงประเทศปลายทางแล้วเท่านั้น)  หรือ ผมแนะนำอีกอย่างว่าให้คุณมองหา คนที่เป็นลูกทัวร์ทริปเดียวกับคุณที่ดูหน้าตาเหมือนกับเป็นพวกบ้า internet บอกให้เค้าตั้งค่าให้ก็ได้ ถึงว่าเป็นการทำความรู้จักกันไปในตัวเลยแล้วกัน

ผมแนะนำ ทำแบบกรณีที่ 3 นี้เพราะมันจะทำให้คุณโทรกลับประเทศไทยผ่านระบบ VOIP ของ Skype เหมาจ่ายรายเดือนโทรไม่จำกัดนาที ถ้าหากว่าประเทศที่คุณจะไปนั้นมี 3G ด้วยอีกดีใหญ่เพราะ จะทำให้คุณโทรจากมือถือ iPhone ของคุณได้ตอนไหนเมื่อไหร่ก็ได้ไม่ต้องคิดว่าโทรมากโทรน้อยนานมากนานน้อยอะไร ไม่ต้องมีค่า Roaming ค่าโทร(แต่ว่ามีค่า Data Roaming เหมาจ่ายไปแล้ว) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การใช้ Skype เพื่อโทรกลับจากต่างประเทศได้จากที่นี่

กรณีที่ 4 : คุณอยากจะใช้โทรศัพท์เพื่อรับสายโทรออก (ยอมรับ rate โทรและรับสายแบบ roaming ได้) แต่อยากจะปิด data roaming ไปซะเพื่อความมั่นใจ กรณีแบบนี้ผมก็จะเลือกทำเหมือนกับสำหรับประเทศที่ผู้บริการมือถือไม่ได้มี package เหมาจ่าย data roaming ครับและ ประเทศที่เรากำลังจะเดินทางไปนั้น ไม่มี SIM card internet (ที่จะเป็นเบอร์โทรศัพท์ท้องถื่นของประเทศนั้นๆที่เอาไว้เล่น internet ได้ ก็เหมือนกับ internet SIM บ้านเรานั่นน่ะหละครับ) ก็ให้ติดต่อสอบถามไปยังผู้ให้บริการมือถือของคุณ แล้วก็บอกว่า อยากจะปิด data roaming ที่เครื่องจะต้องกดอย่างไร แต่จะให้มั่นใจได้กว่านั้นก็คือ การแจ้งเพื่อขอยกเลิก data roaming กับศูนย์ call center ของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณ จะมีวิธีการกดปุ่มพิเศษๆเพื่อให้ยกเลิก data roaming และเปิด data roaming ได้ด้วยตัวคุณเอง

กรณีที่ 5 : คุณอยากจะใช้ data หรือ internet ต่างประเทศ แล้วคุณรู้ว่าประเทศปลายทางนั้นมี internet SIM ขายอยู่ วิธีการนี้ผมจะเลือกใช้ เมื่อ ประเทศปลายทางไม่มี package internet data roaming แบบไม่อั้นหรือเหมาจ่าย แล้วรู้ว่าประเทศปลายทางที่กำลังจะเดินทางไปนั้นมี internet SIM ท้องถิ่นขาย เมื่อผมเดินทางไปถึงก็จะปลด SIM card ของประเทศไทยออกจากเครื่อง (จริงๆก็ปลดตั้งแต่อยู่ในเครื่องบินแล้วก็จะดีที่สุด) แล้วก็ติดต่อร้านค้าสะดวกซื้อแถวสนามบินว่า ต้องการ internet SIM เพื่อใช้งาน internet เค้าก็จะยื่นมาให้เราก็จ่ายเงินให้เค้าแล้วเราก็จะเบอร์โทรศัพท์ท้องถิ่นมา 1 เบอร์แล้วก็เอา SIM card นี้ใส่เข้า iPhone ของคุณหรือ Smartphone ของคุณได้ทันที แล้วก็ activate SIM card คุณอาจจะบอกให้พนักงานร้านสะดวกซื้อทำให้คุณก็ได้ ถ้าหากว่าเค้าดูไม่ยุ่งหรือหน้าต้อนรับแขกสักหน่อย เพื่อ่เป็นการบริการนักท่องเที่ยว

เอาเป็นว่าถ้าหากว่าคุณมีเวลาอยากให้คุณอ่านเอกสารที่ออกโดย กสทช. เกี่ยวกับการเอามือถือไปเมืองนอก จะมีข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์มาก และมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้่ว ด้วยความยาวของตัวหนังสือกว่า 43 หน้าพร้อมภาพประกอบและทำเป็นการ์ตูนเพื่อให้คุณเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ ก่อนเดินทางแนะนำอย่างยิ่งเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปแบบไร้สาระเหมือนกับที่บ้านผมโดนมาแล้วถึงสองครั้งสองครา !
ถ้าหากว่าคุณคิดว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กด share ให้กับคนอื่นที่คุณคิดว่า เค้าจะมีโอกาสได้เดินทางต่างประเทศในไม่ช้านี้ หรือ share ให้กับเพื่อนๆของคุณ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการโดนเก็บเงินก้อนโตจากการใช้ดาต้าโรมมิ่งต่างแดนเหมือนกับที่ผมได้เจอมา

คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:

  • เอาโทรศัพท์ไปใช้ต่างประเทศ
  • เอามือถือไปต่างประเทศ
  • เอาโทรศัพท์ไปใช้ที่ญี่ปุ่น
  • เอามือถือไปใช้ที่ญี่ปุ่น
  • ไปต่างประเทศ มือถือ
  • data roaming คืออะไร
  • tci th uploads files Mobile Passport2
  • การใช้โทรศัพท์มือถือในญี่ปุ่น
  • ใช้มือถือในต่างประเทศ
  • ใช้โทรศัพท์ที่ญี่ปุ่น
Submit your comment

Please enter your name

Your name is required

Please enter a valid email address

An email address is required

Please enter your message

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com