อกไก่โมชิโอะ… แล้วถ้าหากว่าเราทำเองเน้นที่วัตถุดิบเหมือนกันล่ะมันจะไปไกลได้ถึงไหนกัน ?

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกไม่ได้คิดหรอกว่า อยากจะกินอกไก่อะไร และ ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องกินเน้นโปรตีนและ Lean อะไรมากนัก เนื่องจากไม่ได้เล่นกล้าม ไม่ได้เพาะกาย แล้วก็ไม่ได้เป็นคนกินคลีนแต่อย่างใด เป็นสายเนื้อด้วยซ้ำไป ยิ่งมันยิ่งดี เช่นพวกวากิวหรือว่าเอห้าอะไรทำนองนั้น แต่ สำหรับวันนี้ อยากจะลองว่า ถ้าหากว่า เราทำอกไก่ แล้ว มันจะออกมาหน้าตาเป็นแบบไหน เพราะ ใครๆก็บอกว่า ทำอกไก่ยังไงก็ต้องหมักข้ามวันข้ามคืนกันแล้วก็ทำออกมาด้วยการปรุงแบบอื่นๆ มันก็จะแห้งๆหึดๆไม่ค่อยอร่อยมากนัก แต่ .. ประเด็นวันนี้ที่เราจะมาลองกันก็คือ อกไก่ของ Benja Farm ( เบนจาฟาร์มหรือเปล่าไม่แน่ใจ)​ ผมเห็นในโฆษณาใน Youtube บอกว่าเป็น อกไก่ที่เอาหนังออกแล้ว เมื่อมันสุกมันจะ นุ่ม ฉ่ำน้ำ (juicy) ระดับ 150% กล่าวคือ ถ้าหากว่าเทียบกับอกไก่ปกติจะมีความฉ่ำมากกว่า  50%+ ขึ้นมาเห็นจะได้ เนื่องด้วยปกติไม่ได้เป็นคนชื่อโฆษณาอะไร ของแบบนี้เลยต้องลองเท่านั้นถึงจะรู้ว่ามันอะไรต่างเหมือนกับที่กล้าโฆษณาแบบนี้กันเลยมั้ย 

เนื้อความจากภาพนี้ได้มาจากเว็ปไซท์อย่างเป็นทางการของ สเต็กอกไก่โมชิโอะโดยตรงแต่ผมต้องการแคปมาแสดงเพื่อให้เห็นเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุดในการโฆษณาของก้อนเสต็กอกไก่ก้อนนี้

เริ่นต้นจากวัตถุดิบคืออกไก่ของ Benja Chicken 

ก่อนอื่น เริ่มจากโฆษณาของเจ้าอกไก่เบนจาอะไรนี่ก่อนเลยน่ะครับ เพราะ จะได้เห็นว่า เค้าเน้นจุดขายอะไร จะได้มโนตามผมได้ทันน่ะครับ ทั้งนี้ อันนี้ผมเอามาจาก Youtube ช่องที่เป็นของเบนจา chicken  เค้าเองแต่ผมเน้นเรื่องของความเด้งและนุ่มของไก่เลย capture หน้าจอมาเฉพาะส่วนนี้เท่านั้นให้เห็นกันนะครับ 

อ้างอิง Youtube ที่นี่ https://youtu.be/FZm52k9fLYk?t=34

เมื่อเราเชื่อว่าน่าจะจริง เราก็จัดมาเลยจาก Top supermarket ที่มีราคาแปะเอาไว้อยู่หน้าตู้บอกว่า อกไก่ชิ้นละ 69 บาท ต่อน้ำหนัก 250 กรัม อันนี้คืออกไก่ที่เอาหนังออกแล้ว และ ชิ้นเดียวนะครับ ไม่ใช่สองชิ้นคิดดูแล้วกันว่า มันใหญ่โตขนาดไหนกับการทำอกไก่ชิ้นเดียว เราสามารถทานก้อนอกไก่ ก้อนนี้ชิ้นเดียวได้หมดด้วยตัวคนเดียว แล้วความอิ่มก็จะไปแตะที่ระดับ “อิ่มพอดี” ได้เลยทีเดียวนะครับ คิดดูมันก็คือก้อนโปรตีนเต็มๆไขมันน้อยหรือแทบไม่มีกันเลยก็ว่าได้ 

ชิ้นก้อนอกไก่ก้อนนี้ ส่วนตัวแล้วมองว่าราคาแอบแรงกว่าอกไก่ปกติประมาณหนึ่งน่ะครับ แต่ก็ ถ้าหากว่าเทียบกับสิ่งที่เค้าโฆษณาและใส่คุณค่าเข้ามา … ก็ต้องลองดูว่ามันคุ้มกว่ากันแค่ไหน สำหรับคนที่คิดว่า ทานอาหารมื้อเดียวก็แปดสิบกว่าบาท (รวมค่าแก็ซและอื่นๆ) ก็อาจจะดูแพงไปหน่อยที่จะกินเป็นอาหารหลักทานได้ทุกวัน มันแพงไปหน่อยน่ะครับ 

เมื่อดูวัตถุดิบแล้ว ก็เริ่มคิดว่าน่าจะทำให้เหมือนกับโฆษณาไปเลยมั้ย คือ เสต็กไก่โมชิโอะ ซึ่งจริงๆ ถ้าหากว่าดูวิธีการทำ ก็น่าจะมีอะไรมากมาย โดยเน้นเป็นการอบเกลือ แล้วก็ใส่พวกเครื่องเทศต่างๆให้ถึง แล้วก็ทำการ cooking ทำให้สุกที่อุณหภูมิคงที่ด้วยวิธีการ Sous Vide ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่า เขาต้องใช้การ Sous Vide เป็นการปรุงใหสุกอย่างแล้วในระดับอุตสาหกรรม เพราะ มันควบคุมคุณภาพการปรุงสุกอาหารได้นิ่งกว่ากระบวนการอื่นๆนั่นเอง แต่ จริงๆแล้ว เราสามารถทำเสต็กไก่โมชิโอะ ได้เพราะวัตถุดิบเราต่างกัน คือ ของที่เราซื้อมานั้นเป็นอกไก่ไร้หนัง ส่วน ถ้าหากว่าเป็นเสต็กไกโมชิโอะ มีการระบุว่าเป็นเสต็กไก่ที่มีหนังเพื่อทำให้เกิดปรากฏการณ์คาราเมลไรส์ที่หนังได้ดีกว่า การทำกับเนื้อมันอยู่ดี ดังนั้นแล้ว พอพิจารณาถึงตรงๆนี้ ผมเริ่มที่เลิกที่จะเอามาเทียบกันในที่สุด เพราะ ถ้าหากว่า จะเทียบกันจริงๆ ก็ต้องเอาอกไก่แบบมีหนังไก่มาทำเพื่อจะได้ทำออกมาแล้วอย่างน้อยที่สุดรสสัมผัสมันจะได้เหมือนกันทั้งหมด 

เมื่อเลิกคิดที่จะเทียบกับเสต็กไก่โมชิโอะแล้ว เราก็มาคิดดีกว่า อย่างงั้นเราจะทำอะไรกันดีกันก้อนอกไก่ก้อนโตก้อนนี้ คิดไม่นานนัก … ก็พอจะคิดออกว่า .. เอาแบบนี้ดีกว่า เราทำโดยการปรุงให้น้อยๆเข้าไว้ เพื่อดูเรื่องความนุ่มของอกไก่ของเบนจาตามที่โฆษณาเอาไว้ มันจะออกได้นุ่มกว่าปกติได้ขนาดนั้นหรอกเหรอ มันมีความฉ่ำน้ำได้มากกว่าปกติอย่างงั้นมั้ย เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรามาลองทำกันดูรอบแรกดีกว่า โดยรอบแรกนี้จะยังไม่มีการเอาอกไก่อันอื่นมาเทียบ แต่จะเทียบจากประสบการณ์ที่เคยทานอกไก่ Sous Vide มาแล้วหลายครั้งก็น่าจะเพียงพอต่อการเปรียบเทียบในครั้งแรกได้ 

สรุปว่า เราจะปรุงแค่เกลือกับพริกไทยดำปั่นออกมา เท่านั้นก็พอ เหมือนกับการทำเสต็กเนื้ออะไรประมาณนั้น เหมือนกับภาพต่อไปนี้ คือ มีเกลือหิมาลัยชมพู และ พริกไทยดำที่เป็นของพริกไทยตรามือ (ที่อาจจะไม่เห็นโลโก้สินค้าเพราะผมเอามาเต็มเป็น pack refill แล้วน่ะครับ) 

เมื่อเราได้เนื้อไก่ปรุงรสเล็กน้อยตามที่ว่่าแล้ว เราก็จัดแจง pack ดูดอากาศออกด้วยเครื่องซีลสูญญกาศ เพื่อการทำซูวี เหมือนกับภาพด้านล่าง โดยเราจะแพ็คแค่เนื้อก้อนนี้ก้อนเดียวในห่อเท่านั้น แล้วก็จัดการเอาอกไก่อ่างซูวีกันเลยครับ ที่ 63.5 ‘c เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าเล็กน้อย (เรื่องเวลาผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่หรอกน่ะครับเพราะว่า มันไม่ได้ผลอะไรมากนัก เพียงแต่ว่า ถ้าหากว่าเราใส่เกินกว่าชั่วโมงนึง มันก็จะสุกได้ทั้งก้อนแล้วล่ะครับสำหรับไก่ความหนาเท่านี้) ภาพที่เห็นด้านล่างนี้ คือ ภาพของอกไก่ที่มันผ่านกระบวนการซูวีมาแล้วตามที่ผมเล่าให้ฟังน่ะครับ โดยมันอาจจะดูยังไม่่น่ากินเท่าไหร่.. ก็แหง ล่ะ เพราะมันยังไม่ได้ผ่านการตกแต่งอีกเล็กน้อย ดังนั้น เราก็ต้องไปทำการ pan fry กระทะ ต่ออีกสักรอบหนึ่งเพื่อที่มันจะได้ลายกลิ่นหอมของเนื้อไก่เผาไฟ

สุดท้ายเราก็ได้ก้อนอกไก่ออกมาก้อนหนึ่ง ซึ่ง ถ้าหากว่าคุณมีโอกาสได้เห็นของจริง อาจจะต้องร้องว้าว เพราะ มันดูน่าทานอย่างไม่น่าเชื่อ และ ไม่น่าเขื่อว่า มันเป็นเพียงอกไก่ไร้หนังกรอบ แต่เราเห็นแค่ด้านนอกที่มีจี่กระทะมาแล้ว ทำให้มีลายไหม้ของตะแกรงกระทะให้เราเห็นกันทั้งสองด้านของอกไก่ ส่วนที่ผมแถมมาด้วยด้านบนซ้ายของภาพก็คือ กระเทียมเผา ซึ่งผมรู้หรอกว่า ถ้าหากว่าเอามันมาทานกับเนื้ออะไรก็จะเป็นการส่งรสของอาหารออกมาให้แรงมากกว่าเดิม และ กระเทียมเป็นอะไรที่ผมชอบทานอยู่แล้ว ตั้งแต่กินดิบ เผา คั่วย่าง หรือ แม้กระทั่งหมัก (ทำกระเทียมดำก็ชอบเหมือนกัน) 

สุดท้ายผมก็ต้องลองผ่าดูด้านในว่า เนื้อมันนุ่มแค่ไหน และ มันมีลายแบบไหนกัน ได้ข้อสรุปว่า เมื่อเราดูเนื้อด้านใน เราจะเห็นได้ว่า อกไก่อันนี้มันมีความสามารถในการอมน้ำไก่อยู่ในตัวได้มากเป็นพิเศษ มากกว่าแบบอื่นๆ เท่าที่เคยเห็นมา คือ เมื่อเราเอามีดเลื่อยหั่นดู เราจะเห็นได้ว่า มันมีการดันน้ำออกมาด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งอกไก่ก้อนอื่นๆเท่าที่เคยทำมาก็ไม่ได้ฉ่ำได้ขนาดนี้เมื่อผ่านการจี่กระทะแล้ว

เอาเป็นว่า ถ้าหากว่า คุณเวลาและอยากจะลองทำอกไก่ที่มีรสสัมผัสที่รู้สึกได้ว่ามัน premium กว่าอกไก่ปกติ เราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณลองหา Benja Farm Chicken มาลองทำ Sous Vide ดูเสียหน่อย แล้วคุณจะได้รับประสบการณ์ที่น่าประหลาดใจจากอกไก่ไร้มันก้อนนี้เหมือนกับผมที่ได้รับประสบการณ์นี้ยังไงล่ะครับ 

ขอบคุณเครื่องซูวีจาก https://sousvidemax.com และ ก้อนอกไก่ที่คุณภรรยาซื้อมาให้ลองด้วย

Submit your comment

Please enter your name

Your name is required

Please enter a valid email address

An email address is required

Please enter your message

rackmanagerpro.com © 2024 All Rights Reserved

Rackmanagerpro.com all right reserved 2007 - 2019

Copyright by Rackmanagerpro.com

Content Creted by Rackmanagerpro.com