สรุปการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
ใครบ้างที่ควรตรวจคัดกรอง?
-
ทุกคน: เริ่มตรวจคัดกรองเมื่ออายุ 45 ปี
-
คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่:
-
ญาติสายตรง (พ่อ แม่ พี่น้อง):
-
อายุต่ำกว่า 60 ปี: ตรวจเมื่ออายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุก 5 ปี
-
อายุมากกว่า 60 ปี: ตรวจเมื่ออายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุก 10 ปี
-
-
ญาติ 2 คนขึ้นไป (ไม่จำกัดสายเลือด): ตรวจเมื่ออายุ 40 ปี และตรวจซ้ำทุก 5 ปี
-
หากญาติสายตรงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตอนอายุน้อยกว่า 60 ปี: ตรวจเมื่ออายุ น้อยกว่า อายุที่ญาติเป็น 10 ปี (เช่น ญาติเป็นตอนอายุ 45 ปี เราควรตรวจตอนอายุ 35 ปี)
-
-
คนที่มีความเสี่ยงอื่นๆ: เช่น โรคทางพันธุกรรม (HNPCC, Lynch syndrome, MUTYH-associated polyposis, FAP, Gardner syndrome, Turcot syndrome, Peutz-Jeghers syndrome) โรคลำไส้อักเสบ (IBD) ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตรวจที่เหมาะสม
ตรวจคัดกรองเมื่อไหร่ เพื่อหายขาดได้ง่าย?
ควรตรวจคัดกรองตามอายุที่กำหนดข้างต้น เพื่อตรวจหามะเร็งในระยะแรกๆ ซึ่งมีโอกาสหายขาดสูง
วิธีการตรวจคัดกรอง:
-
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy): เป็นวิธีที่ดีที่สุด แม่นยำที่สุด สามารถตัดติ่งเนื้อออกได้ทันที
-
CT colonography หรือ Virtual colonoscopy: เป็นการทำ CT scan ช่องท้องแบบพิเศษเพื่อสร้างภาพลำไส้ใหญ่ ไม่ต้องวางยาสลบ แต่หากพบความผิดปกติ ต้องส่องกล้องซ้ำ
-
Cologuard: เป็นการตรวจ DNA ของมะเร็งและเลือดในอุจจาระ มีความแม่นยำสูง
-
การตรวจเลือด: ไม่แนะนำสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะไม่ได้ผล
นอกจากการตรวจคัดกรองแล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงด้วย เช่น
-
ลดความอ้วน
-
รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง
-
หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารประเภทเนื้อสัตว์
-
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
-
ลดการดื่มแอลกอฮอล์
-
ไม่สูบบุหรี่
หมายเหตุ:
-
ข้อมูลนี้เป็นเพียงการสรุป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตรวจคัดกรองที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
-
การตรวจเลือดที่พบค่ามะเร็งสูงขึ้น ไม่ได้บ่งชี้ว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เสมอไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ