ผมมีเครื่องเสียงเล็กๆอยู่ตัวนึง คือ ลำโพง Bose ที่มีมาตั้งนานแล้ว ผมว่าผมมีมากกว่า 10 ปีน่าจะได้ แล้วก็ลำโพง Bose นี่ก็ไม่ได้สามารถที่พัฒนาให้เสียงมันดีไปได้กว่านี้อีกแล้ว ผมเข้าไปดูที่ร้าน ส่วนที่พัฒนาก็จะเป็นพวก Function เสริมอื่นๆเสียมากกว่าไม่ว่าจะเป็นการเอาแผ่น MP3 เข้าไปเล่นได้หรือ เป็น Version ที่มีลำโพงมากตัวขึ้น
แต่สำหรับผมแล้วการพัฒนาด้านคุณภาพเสียงผมว่าก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่อะไรเพราะ เค้าก็เอาเรื่องของการสร้างห้องเสียงเพื่อทำให้เสียงออกมาทุ้มหนาลึกด้วยวิธีการเดิม หรือเรียกง่ายๆว่าหน้าตาของเครื่องลำโพงก็จะเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซนต์เลย อย่างว่า ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ด้วย Technic ของลำโพงวิธีการหรือการสร้างห้องเสียงแบบที่ Bose ใช้งานอยู่เป็นวิธีการที่ดีที่สุดแล้ว เท่าที่บริษัทนี้จะคิดออก และผมก็ยอมรับว่ามันดีทีจริงๆ และไม่คิดจะซื้อเครื่องเสียงหรือลำโพงตัวอื่นมาแทนตัวเก่าที่ผมมีกว่า 10 ปีนี้ได้แต่อย่างใด
เนื่องด้วยตอนนี้ ผมฟังเพลงจาก iTune มากกว่าปกติ เพราะ มีเครื่อง iMac ตั้งที่บ้านได้ไม่เกิน 6 เดือน และก็ใช้ iPhone เป็นมาตราฐานสำหรับการบรรจุเพลงหรือเพื่อฟังเป็น Podcast เป็นประจำ ทำให้ผมอยากจะเอาเสียงจาก iPhone ไปออกลำโพงเสียงดีที่ผมมีอยู่แค่ตัวเดียว ก็คือ ลำโพง Bose ตัวนี้ อย่างไรก็ดีการเอาเสียงจาก iPhone ไปต่อสามารถทำได้โดยเอาสาย Audio ต่อจาก iPhone ตรงๆแล้วก็ไปเข้า AUX IN ของลำโพงแค่นี้ก็เสร็จแล้ว แต่ปัญหาของผมก็คือ มันเหมือนว่าจะไม่สะดวกเพราะว่า ผมต้องการจะ control เพลงจาก iPhone ได้จากที่ไหนก็ได้ในห้องนอนเล้กๆของผม หรือตอนที่ผมเล่น iMac อยู่หรือเล่น Computer Desktop ตั้งโต๊ะที่เป็น Windows อยู่นี่ก็ตาม (ใช่แล้วล่ะครับ ห้องผมมี computer 2 ตัวน่ะครับ คือ iMac 1 ตัวและ Windows PC ตั้งโต๊ะ 1 ตัว) ผมไม่อยากจะไถเก้าอี้ หรือเดินไปเพื่อปรับเสียง หรือ เพื่อที่จะกด Forward เลือกเพลงถัดไปจาก เครื่อง iPhone ที่มันปักอยู่กับลำโพงครับ
แนวทางนึงที่เป็นไปได้ก็คือ “ทำให้ลำโพงรับ Bluetooth ได้” โดยการโอนถ่าย Bluetooth จะต้องเป็นการ streaming เพลงในระบบสเตอริโอได้ ซึ่งวิธีการที่ผมทำก็คือ ไปเดินหาซื้อ Bluetooth แบบที่เป็น clip ที่จะมีรูที่เอาไว้เสียบหู headphone ได้ครับ
ผมขอเล่านิดนึงก่อนเกี่ยวกับ Bluetooth นะครับ คือ ตอนนี้ Bluetooth ที่ขายกันอยู่ในท้องตลาดจะมีอยู่แค่ไม่กี่แบบก็คือ แบบที่คุณจะเห็นโดยทั่วไปก็คือ Bluetooth ที่เป็นอุปกรณ์ที่เกี่ยวติดกับหูเลย แบบนี้จะไม่มีรู Audio เพื่อเสียบ jack ของ headset แต่ประการใด กับอีกแบบก็คือ แบบที่ผมต้องการเพื่อแปลง ลำโพงให้รับ Bluetooth ได้ นั้นก็คือ แบบที่ต้องมีรู jack เพื่อเสียบหูฟังด้วยครับ ซึ่งในตลาดก็ไม่ได้มียี่ห้อหรือแบบให้เลือกมากนัก เหตุผลก็เพราะว่า จริงๆแล้ว ถ้าหากว่าคุณจะเลือก Bluetooth เพื่อการคุยสื่อสารกันแล้วล่ะก็แบบที่ใส่หูเลยจะสะดวกกว่าเพราะไม่มีสายอะไรเสียบไปเสียบมาอีก แล้วก็จะมีตัวเลือกให้คุณเลือกเยอะยี่ห้อ เยอะแบบ เยอะ Brand เอามากๆ แต่สำหรับ case ที่คุณจะต้องเลือกเพื่อให้ลำโพงคุณรับ Bluetooth ได้นั้นเป็นแบบต้องมีรูเสียบหูฟังเท่านั้น
สุดท้ายผมไปเดินดูก็เลือกยี่ห้อเดิมที่เคยใช้ คือ Jabbra Clipper ครับเพราะว่า ยี่ห้ออื่นมองไม่เห็นมีขายกันเท่าไหร่เลย ก็เลยซื้อมาลองดู เท่านี้ผมก็จัดแจงต่อไฟเข้าเครื่อง Jabbra และต่อ audio จากเครื่อง Jabbra เข้ากับ aux-in ของลำโพง Bose เท่านั้น แล้วก็ทำการ Pair and connect ระหว่าง iPhone และ Jabbra เข้าด้วยกัน นอกจากนี้คุณยัง Pairing iMac เข้ากับลำโพงด้วยอีกด้วย นอกเหนือไปกว่านั้นอีก คุณก็ทำการ pairing iPad เข้ากับ Jabbra อีกต่างหาก แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นการ connect เพื่อให้เสียงออกไปที่ลำโพงจะกระทำได้แค่ 1 : 1 เท่านั้น คือ เชื่อมได้กับแค่ อุปกรณ์ใด อุปกรณ์หนึ่งเท่านั้น ณ เวลาใดๆครับ
Jabbra Clipper นี่ถ้าหากว่าผมปิด Bluetooth เมื่อไหร่และมันค้นหา Bluetooth อื่นที่มันจะ connect ไม่ได้อีกสักพักมันก็จะปิดของมันเองทุกครั้งไปครับ ทำให้เมื่อคุณกลับมาที่ห้องนอนก็ต้องเดินไปเปิด Jabbra Clipper bluetooth และเปิดลำโพง ซึ่งก็ยังไงก็ต้องเดินไปเปิดอยู่แล้วทุกครั้ง แล้วก็ค่อย connect iPhone ผ่าน Bluetooth เข้าไปอีกทีครับ ก็การทำงาน หรือการต่อก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากครับผม
ข้อเสียของ Jabbra Clipper ก็มีครับ คือเหมือนว่าระยะมันจะออกไปไม่ได้ไกลมากสักเท่าไหร่ แม้ว่าจะมี spec. ที่บอกว่า มันรับได้ไกล 10 m ก็ตามที แต่เมื่อมีอะไรมาขวางหรือมาบังหนาๆหน่อย ก็จะทำให้การ streaming เสียงเพลงจาก iPhone ไปยัง Bluetooth ได้ไม่ดีนัก นั้นก็แปลว่า คุณจะต้องไม่ไกล Bluetooth มากเกินไป หรือ อีกทางก็คือ คุณจะต้องอยู่ในห้องนอนที่ไม่ได้เป็นห้องคุณหนูอลังการงานสร้างมากนัก และ ที่แน่ๆ ก็คือเอา Bluetooth มาไว้ให้เห็นหน่อย ก็คือ อย่าเอาเครื่องเสียงของคุณบังเจ้าเครื่อง Jabbra นี่เท่านั้นก็จะใช้งานได้อย่างราบรื่นไม่เกิดปัญหาสะดุดเสียงให้กวนใจแล้วล่ะครับ
ถ้าหากว่าจะให้แนะนำ ผมว่าให้คุณลองกับ Bluetooth ยี่ห้ออื่นๆที่นอกเหนือจาก Jabbra clipper ก็น่าจะดีเพราะว่า ก่อนหน้าผมได้ลองกันยี่ห้ออื่นแล้วมันรับสัญญาณระหว่างกันได้ดีกว่านี้มากอยู่ระดับหนึ่งครับ ทำให้ผม … เดา .. เอาว่ายี่ห้ออื่น น่าจะมีการเน้นเรื่องระยะ และกำลังส่งได้ดีกว่านี้ อย่างว่าล่ะครับ การเอา Bluetooth มาใช้แบบนี้ไม่ได้เป็นเหตุผลหลักของการ Design สินค้าแบบนี้มาแต่แรก เรียกว่า ผมเอามาใช้เป็นการประยุกต์เสียมากกว่า หากว่าคุณคิดว่าคุณต้องการ Function Bluetooth ให้กับ stereo เครื่องโปรดของคุณจริงๆแล้ว ลงทุนอุปกรณ์พวก Bluetooth เพิ่มเข้าไปก็คุ้มค่ากว่า การไปซื้อ เครื่องเสียงอีกเครื่องที่รับ Bluetooth ได้ในตัวล่ะครับ จริงๆแล้ว ถ้าหากว่าคุณไปเดินตามร้านค้าขายของ Gadget จะมีลำโพงที่รับสัญญาณ Bluetooth ได้เลยออกมาวางขายแล้วตอนนี้ แต่อย่างว่าล่ะครับ ถ้าหากว่าคุณอยากจะได้แบบเสียงดีๆมันก็ไม่ได้แค่พันสองพันนะครับ (แบบพันสองพันก็มีแต่ว่าเสียงผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน ต้องเข้าใจว่าตอนนี้หูสูงแล้วน่ะครับ) เรียกว่า ต้องหมื่นขึ้นด้วยกันทั้งนั้น เอาเป็นว่าถ้าหากว่าคุณมีลำโพงเสียงยอดอยู่แล้ว ลองหาแค่ Bluetooth แบบนี้มาต่อเพิ่มเข้าไปน่าจะคุ้มเอาการน่ะครับ ลองดูแล้วกันนะครับ
ถ้าหากว่าคุณได้ใช้งาน Bluetooth ยี่ห้ออื่นแล้วดีหรือไม่ดียังไงกรอกพิมพ์เล่าประสบการณ์การใช้งานผ่าน comment ด้านล่างให้ผมฟังหน่อยแล้วกันนะครับ .. เอาเป็นว่าลองดูครับลองดู
คำค้นหาของคุณที่มาเจอหน้าเว็ปนี้:
- ลําโพง bluetooth
- ตัวรับสัญญาณ bluetooth
- ลําโพง บลูทูธ
- ตัวรับสัญญาณ bluetooth ลําโพง
- ส่งสัญญาณเสียงผ่าน bluetooth
- ตัวรับสัญญาณบลูทูธ
- ตัวรับ bluetooth
- รับสัญญาณ bluetooth
- เครื่องรับ bluetooth
- ตัวส่งสัญญาณ bluetooth