rackmanagerpro.com

รีวิว Mesh Wifi เพื่อสร้าง WIFI ที่เสถียรและครอบคลุมพื้นที่ในบ้านขนาดใหญ่ได้ทั้งหมด

วันนี้ อยากจะมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับ Wifi แบบใหม่ที่ตอนนี้เรียกได้ว่า เป็นที่่นิยมมากกว่าระบบ Wifi แบบเดิมมากๆด้วยเหตุผลข้อดีของมันที่เยอะแยะไปหมด คือ ระบบของ Mesh Wifi นั้นเอง การที่ตอนนี้ผู้ให้บริการ internet เลือกที่จะแถม Router แบบที่เป็นระบบ Mesh Wifi เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้งานจะโทรกลับมาแจ้งปัญหาว่า สัญญาณ internet อ่อนทำให้อินเตอร์เน็ตช้า ทั้งๆที่มันเป็นปัญหาเกี่ยวกับ Network หรือสัญญาณความแรงของ WIFI ที่สถานที่ที่ติดตั้งแทนที่จะเป็นปัญหาของผู้ให้บริการจริงๆ ดังนั้นแล้ว ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตที่ฉลาดๆก็จะเริ่มเห็นได้ว่า การแถม Router network ที่เป็นระบบ Mesh WIFI Network ไปให้กับสถานที่ที่ติดตั้งเลย น่าจะเป็นทางเลือกที่ Win-Win ทั้งสองฝ่ายได้จริงๆ เอาล่ะ ถ้าหากว่าคุณอ่านมาถึงตรงนี้ แล้ว คงจะเริ่มสงสัยแล้วล่ะซิว่า เจ้า Mesh Wifi Network มันเป็นอย่างไร และมันดีกว่าระบบเก่าๆอย่างไรบ้าง แต่บทความนี้ไม่ได้มีรีวิว Mesh Wifi Router หรือ Access Point นะครับ ถ้าหากว่าต้องการดูรีวิวผมเคยพิมพ์เอาไว้ด้วยเป็นรุ่น Tenda Nova MW3 ของเก่าใช้มาได้ประมาณปีสองปีแล้ว แต่ก็ทำงานได้ดีเอามากๆน่ะครับ ยังไง ถ้าหากว่า จะให้แนะนำรุ่นสินค้าของ Mesh Wifi Access Point ผมก็แนะนำเป็นรุ่นนี้น่ะครับ 

ภาพแสดง Mesh Wifi Device ของ Tenda Nova MW3 ที่ผมใช้งานอยู่จริงๆ

Mesh Wifi คืออะไร ทำงานอย่างไร และ ทำไมถึงต้องใช้ด้วยล่ะ ? 

คุณต้องเข้าใจก่อนว่า Mesh Wifi มันเอาไว้แก้ปัญหาความครอบคลุมของสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่หนึ่งๆเป็นหลัก ลองคิดดูซิครับว่า เราซื้อเช่ารายเดือนหรือซื้อบริการ internet ของ internet service provider ที่ True internet / 3BB internet / AIS fiber internet / TOT internet อะไรก็สุดแล้วแต่ แต่เค้าจะส่งสัญญาณเข้ากับ Router ที่เป็น WIFI ส่งสัญญาณออกมาเป็นตัวเดียวเท่านั้นเอง ซึ่งสัญญาณ WIFI มันไม่ครอบคลุมบ้านเลย ! หากว่าคุณติดตั้ง Router เอาไว้ที่ชั้นหนึ่งของบ้าน ชั้นสาม หรือชั้นสองบางส่วนของบ้านก็จะไม่ได้รับสัญญาณ WIFI ที่ว่านี้แล้ว และ จำเป็นต้องหาทางลากสายเพิ่มหรือว่า จะต้องลงทุนทำระบบ Repeater สำหรับการทวนสัญญาณ internet อีกต่อหนึ่ง(แต่ความเร็วลดแย่มาก อย่างดีคือลดลงครึ่งหนึ่ง แต่อย่างเลวก็แทบไม่เหลือช่องสัญญาณ internet speed ให้ส่งข้อมูลไปกลับกันได้เลยก็ว่าได้)​ และ นี่เป็นสามารถหลักว่า Mess Wifi Router มันจะมาแก้ปัญหานี้ได้ โดยหลักการทำงานของ Mesh Wifi คือ อุปกรณ์ WIFI ที่มันสามารถคุยกันเองด้านหลังด้วยช่วงสัญญาณอื่นๆที่ไม่ใช่ช่วงสัญญาณเดียวกับ WIFI ปกติ คือ มันแอบคุยกันด้วยภาษาอื่นๆ หลังบ้าน เพื่อเป็นการคุยกับระหว่างอุปกรณ์เท่านั้น การคุยกันนี้ คือ การถ่ายข้อมูลระหว่างกันไปมา แบบหลายทางแล้วแต่ว่า เครื่อง Mesh WIFI แต่ละตัวมันอยู่ใกล้หรือไกลกันแค่ไหน และ ตัวไหนอยู่ใกล้กับตัวไหน มันจะเลือกถ่ายข้อมูลคุยกันด้านหลังกับตัวนั้นเป็นหลักเพื่อส่งต่อข้อมูลกัน เช่น ถ้าหากว่าคุณว่า Mesh wifi device ตัวแรกที่ชั้นหนึ่ง ตัวที่สองที่ชั้นสอง และ ตัวที่สามที่ชั้นที่สามของบ้าน Mesh Wifi ตัวแรกเขาก็จะคุยส่งข้อมูลต่อให้กับตัวที่สองที่อยู่ชั้นที่สอง เพราะมันใกล้ตัวแรกกว่า จริงแล้ว ตัวแรกที่อยู่ชั้นหนึ่งนั้น เขาก็พยายามจะคุยกับตัวที่สามแต่ เขามองเข้าใจว่า ฉันไม่ได้อยู่ใกล้กับตัวที่สาม เขาก็จะหาคนอื่น (อุปกรณ์ mesh wifi network) เพื่อคุยได้ชัดกว่า แล้วถามตัวนั้นมีตัวที่สามที่คุณคุยด้วยอยู่หรือเปล่า ถ้าหากว่ามีมันก็จะคุยผ่านตัวที่สองอะไรประมาณนี้ เรียกได้ว่า มันจะโยงใย แล้วล็อคเส้นทางเอาไว้เลยว่า แบบไหน เป็นการโอนถ่ายข้อมูลได้สะดวกและเร็วชัดเจนกว่า ดังนั้นสำหรับกรณีตัวอย่างนี้ Mesh Wifi Device ตัวที่หนึ่งก็จะคุยกับตัวที่สอง และ เมื่อเขาต้องการคุยกับตัวที่สาม เขาก็จะบอกผ่านตัวที่สองไปแทนเท่านั้นเอง เนี่ยะแหละครับ ระบบ Mesh Network ทั้งนี้ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ อุปกรณ์พวก Mesh Wifi network ทั้งหมดจะทำงานคุยต่อเนื่องกันเองหลังบ้าน เราไม่ได้ต้องเข้าไปตั้งค่าหรือยุ่งเกี่ยวอะไรแต่อย่างใด 

เพราะหลักการของ mesh wifi router มันทำอย่างที่เล่า คือการคุยต่อกันและถามกันเองว่าใครใกล้ใคร ใครสะดวกส่งสัญญาณแน่นๆไปหาตัวไหน ทำให้ “คุณสามารถเพิ่มตัว mesh wifi device ได้เท่าที่อุปกรณ์ยี่ห้อนั้นจะกำหนดเอาไว้สูงสุด” โดยในตลาด mesh wifi router access point ตอนนี้ จะมีให้เลือกก็ประมาณสองแบบนี้ คือ ชุดที่รองรับการใช้งานได้ทั้งหมด 3 ชิ้นเท่านั้น หรือ ชุดที่รองรับการใช้งานได้ทั้งหมด 5 ชิ้น กล่าวคือ แต่ละแบรนด์ก็มองว่า บ้านใหญ่ๆของคนปกติทั่วไป 99% ของประชากร การที่มีอุปกรณ์ mesh wifi network นั้นจะทำให้สามารถใช้งานได้ครอบคลุมบ้านสำหรับคนธรรมดาและคนชนชั้นกลางได้ทั้งหมดแล้ว มันไม่น่าจะใหญ่ไปกว่านี้สามชิ้นได้หรอก (เพราะแต่ละตัวก็ส่งสัญญาณข้ามกันได้และสื่อสารกันได้ แล้วก็ยังมีวงกว้างออกไปด้วย) หรือ ถ้าหากว่า บ้านคุณเป็นบ้าน เศรษฐีจริงๆแล้วล่ะก็ เป็นคฤหาสน์ใหญ่เอามากๆ หรือ มีพื้นที่ระหว่างอาคารไกลกันแบ่งเป็นส่วนๆ คุณอาจจะเลือกรุ่นที่รองรับการเชื่อมตัวอุปกรณ์ Mesh Wifi ได้ถึง 5 อุปกรณ์ก็ทำได้ด้วยเช่นเดียวกัน 

แล้วแบบนี้แนะนำเลือก Mesh wifi 3 หรือ 5 ชิ้นดีกว่าล่ะ ? 

บ้านส่วนมาก สามารถใช้ เครื่อง mesh wifi network เช่น Tenda Nova MW3 ครอบคลุมพื้้นที่ได้แล้วทั้งหมดชองบ้านหรืออาคารได้จริงๆ โดยทั้งหมดเป็นระบบไร้สาย

สำหรับผมแล้ว ที่บ้านผมก็ใช้ Mesh wifi device เพื่อเป็น Access point ต่อมาจากอาคารด้านหลังบ้านของตัวเอง (ที่เป็นสำนักงานของตัวเอง แต่ เป็นคนละส่วนอาคารกัน) สำนักงานของผมจะอยู่ติดถนน ส่วนบ้านจะลึกเข้ามาอยู่ด้านหลังอาคารอีกที ทำให้ผมเลือกที่จะใช้ internet แค่เส้นเดียวต่อเข้าที่ออฟฟิศและ ส่งสัญญาณ internet ผ่าน mesh wifi device แบบนี้เข้ามาที่บ้านอีกต่อหนึ่งเพราะงั้นแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องเสียเงินซื้อเช่ารายเดือนเพื่อให้ได้ internet cable เข้ามาที่บ้านโดยตรง กล่าวคือ จ่ายของสำนักงานแค่อย่างเดียว แล้วก็เอามาใช้ที่บ้านได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์อะไรเพิ่มมากนัก เว้นแต่ เจ้า mesh wifi ที่ว่านี้ก็แค่นั้นเอง โดยผมเลือกเริ่มต้นด้วย การใช้ Tenda Nova MW3 ซึ่งมันจะรองรับการเชื่อมต่อกับตัวของมันเองคือ ทั้งหมดสูงสุดไม่เกิน 5 เครื่องของ Tenda Nova MW3 แต่ตอนแรกผมก็จะซื้อมาแค่ 3 ชิ้นก่อน ถ้าหากว่า มันไม่ครอบคลุมจริงๆ อาจจะต้องซื้อเพิ่มมาอีกสองชิ้น ทำให้ทั้งหมดเป็นห้าชิ้นกรณีที่แย่ที่สุด แต่ปรากฏว่า ผมซื้อเจ้า Tenda Nova MW3 มา set 3 ชิ้น เท่านั้นก็สามารถใช้งานได้แล้ว โดยผมวางตัวแรกที่รับ internet ในออฟฟิศที่อาคารแล้ววางเอาไว้ที่ริมหน้าต่างของอาคารชั้นที่สอง แล้ว ตัวที่สองก็วางเอาไว้ที่ริมหน้าต่างด้านที่ใกล้อาคารชั้นที่สองเช่นเดียวกัน และ อีกตัวก็แค่วางเอาไว้ในบ้านปกติ สรุปก็…ใช้งาน WIFI ได้ทั้งบ้านแล้ว ! 

สรุปคือ ถ้าหากว่า คุณจะเริ่ม ผมแนะนำให้คุณเริ่มจากการเดาเอาก่อนว่ามันน่าจะวางตรงไหนถึงมันจะส่งสัญญาณหากันได้ โดยแนวคิดก็จะเหมือนกับ WIFI ปกติคือ ถ้าหากว่าเป็นที่โล่งได้จะดีที่สุด และ ยิ่งใกล้กันสัญญาณมันก็จะต่อกับได้แข็งแรงแน่นๆมากขึ้น และ ถ้าหากว่า มีอะไรมาบังขวางก็จะต้องรู้หน่อยว่า เป็นผนังคอนกรีต หรือ บางแค่ไหน แล้วเดาลองตั้งจริงเท่านั้นถึงจะสรุปได้ว่า เราจะได้สัญญาณ internet ครอบคลุมด้วย Mesh wifi network แบบนี้หรือเปล่า ไม่สามารถทดสอบอะไรก่อนได้เลย ต้องเสียเงินลองเท่านั้นเอง แต่ ! อย่างว่าแหละ ตอนนี้ ที่ผมเห็นตัว Tenda Nova MW3 มันราคาประหยัดเอามากๆ เรียกได้ว่า ถูกเลยก็ว่าได้ แล้ว มันก็ถูกกว่า Access Point ปกติเสียอีกถ้าหากว่า เทียบความแรงสัญญาณต่อพื้นที่ ยังไงการใช้ internet ผ่าน Mesh wifi network เนี่ยเป็นทางเลือกที่ดี่ที่สุด ที่ผมจะแนะนำให้คนอื่นเข้าใจและรับรู้ได้ว่า ถ้าหากว่า คุณเป็นบ้านเดียว หรือ อาคารแล้ว น่าจะลองเลือกใช้ mesh wifi network มาใช้งานดีกว่า เลือกที่ลากสายแลนด์แบบเก่าๆอีกต่างหาก ด้วยความคุ้มค่าที่ประหยัด และทำงานติดตั้งงาน หรือ สามารถแก้ปัญหาได้ง่ายกว่าระบบสายเอามากๆ ทำให้ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ผมก็จะแนะนำให้อาคารเลือกใช้ Mesh wifi network ที่เชื่อมต่อกันอยู่ดี ! อ่อ ผมลืมบอกอีกข้อดีก็คือ wifi netowrk มันจะออกมาเป็นชื่อเดียวกันทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน ไม่ว่าคุณจะรับหรือส่งข้อมูลส่วนใหญ่จาก mesh wifi device ตัวไหน มันก็คือ ตัวเดียวกันเหมือนกันหมด ทำให้เราสามารถเดินขึ้นลง ไปไหนมาไหน ในบ้านก็เป็น Wifi ที่เราจับอยู่ตลอดเวลาไม่ต้องเปลี่ยน SSID ของ WIFI กันเลยก็ว่าได้ ดีงามพระรามเก้ามากอันนี้ขอบอก ! หากคุณมีคำถามอะไรก็..ถามผมมาได้ที่ comment ด้านล่างก็ได้ หรือถ้าหากว่า อยากจะซื้อ Tenda Nova MW3 ที่ผมแนะนำให้กดผ่านลิงค์จากบนความนี้ได้เลย ผมจะได้ค่าแนะนำสินค้าอยู่แล้วจากทางลาซาด้าถึงแม้ว่ามันจะเล็กน้อยแต่ก็.. ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้าเอาไว้ด้วย 😉 

Exit mobile version